การกลับมาของเพชฌฆาตตุลาการครับ หลังจากภาคแรกรายได้ออกมาแบบกลางๆ คำชมก็กลางๆ ตัวหนังเองก็ดูได้แบบกลางๆ คือ เพลินๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจเป็นพิเศษอะไรนัก ทว่าในใจลึกๆ ผมก็อยากเห็นภาคต่อนะครับ เพราะชอบตัวละครฮีโร่มาร์เวลตัวนี้อยู่เหมือนกัน
การกลับมาของเพชฌฆาตตุลาการครับ หลังจากภาคแรกรายได้ออกมาแบบกลางๆ คำชมก็กลางๆ ตัวหนังเองก็ดูได้แบบกลางๆ คือ เพลินๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจเป็นพิเศษอะไรนัก ทว่าในใจลึกๆ ผมก็อยากเห็นภาคต่อนะครับ เพราะชอบตัวละครฮีโร่มาร์เวลตัวนี้อยู่เหมือนกัน
เชอร์ล็อค โฮล์มส์ฉบับนี้ก็เป็นอีกครั้งที่นำเอานิยายชื่อเดียวกับชื่อหนังมาสร้างนะครับ พล็อตเรื่องก็คงเดิม โฮล์มส์ (Richard Roxburgh) กับหมอวัตสัน (Ian Hart) ได้รับการร้องขอจาก ดร.มอร์ติเมอร์ (John Nettles) ให้ช่วยเดินทางไปไขปริศนาคำสาปแห่งคฤหาสน์บาสเกอร์วิลล์ ที่ว่ากันว่าทายาทตระกูลบาสเกอร์วิลล์ที่กล้าเหยียบเข้าไปในคฤหาสน์ ต้องถึงแก่ความตายทุกคน
มาพบกับอีกหนึ่งโฮล์มส์เวอร์ชั่นนอกตำรับนะครับ
โฮล์มส์แต่งงาน, หมอวัตสันเต้นรำในหมู่สาวๆ, หน่วยสืบราชการลับ, ควีนวิคตอเรีย และสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาปล็อกเนส! ทั้งหมดนี้ไม่น่าจะมายำรวมกันได้ใช่ไหมครับ
นี่คือเรื่องแรกในบรรดาหนังเชอร์ล็อค โฮล์มส์ที่เป็นหนังสีนะครับ อำนวยการสร้างโดยค่าย Hammer Films ที่โด่งดังจากการปลุก Dracula และ Frankenstein กับสารพัดหนังสัตว์ประหลาดและสยองขวัญที่ฮิตกันสุดๆ ในช่วงยุค 50 คราวนี้ทาง Hammer ก็กะจะปลุกชีพยอดนักสืบอย่างโฮล์มส์ให้กลับมามีชีวิตและหมายมั่นให้เป็นแฟรนไชส์หนังภาคต่อกันเลยล่ะครับ
นี่คือตอนสุดท้ายของหนังชุดเชอร์ล็อค โฮล์มส์ที่นำแสดงโดย Basil Rathbone และ Nigel Bruce นะครับ เบ็ดเสร็จก็สร้างติดต่อกันมา 14 ตอนพอดี นับว่ายาวเอาเรื่อง
เชอร์ล็อค โฮล์มส์เวอร์ชั่น Basil Rathbone นี่ก็เป็นตอนที่ 13 ของชุดนี้แล้วนะครับ ซึ่งก็ยังทำให้ผมทึ่งต่อไปอีก เพราะความสนุก น่าติดตามไม่ได้ลดลงเลยครับ
เชอร์ล็อค โฮล์มส์ (Basil Rathbone) กับหมอวัตสัน (Nigel Bruce) ได้ออกนอกสถานที่กันอีกแล้วครับ เมื่อทางการได้ขอให้โฮล์มส์ช่วยพารัชทายาทแห่งยุโรปกลับไปยังแผ่นดินโดยปลอดภัย หลังเกิดการชิงราชบัลลังก์ และลอบสังหารกษัตริย์องค์ปัจจุบัน
ตอนแรกผมนึกว่าจะเกี่ยวกับแจ็ค เดอะ ริปเปอร์ซะอีกนะครับ เพราะเนื้อหามันว่าด้วยการฆาตกรรมต่อเนื่องในกรุงลอนดอน เหยื่อก็เป็นหญิงสาว แต่พอดูแล้วก็พบว่าไม่ใช่ครับ มีแค่การพูดอ้างอิงถึงแจ็ค เดอะ ริปเปอร์นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น
ฟังชื่อไทยที่ผมตั้งแล้วแปลกๆ ไหมครับ “เมล็ดส้มสั่งตาย” ฮ่า แต่ก็ต้องตั้งไปตามนั้นล่ะครับ เพราะตอนนี้มันดัดแปลงจากเรื่องสั้นของโฮล์มส์ที่ตอน “เมล็ดส้มห้าเมล็ด” หรือ The Five Orange Pips เพราะเนื้อหามันเกี่ยวกับเมล็ดส้มจริงๆ ครับ