หนังโรแมนติกอารมณ์ดีโดยมีบรรยากาศคริสต์มาสเป็นฉากหลัง แบบที่ Netflix ขยันทำออกมาต่อเนื่องหลายปีแล้วครับ (ซึ่งก็ถือว่าเดินตามรอย Hallmark มาอีกทีหนึ่ง)
หนังโรแมนติกอารมณ์ดีโดยมีบรรยากาศคริสต์มาสเป็นฉากหลัง แบบที่ Netflix ขยันทำออกมาต่อเนื่องหลายปีแล้วครับ (ซึ่งก็ถือว่าเดินตามรอย Hallmark มาอีกทีหนึ่ง)
Red Notice นี่ดูได้เพลินๆ เลยครับ สนุกแบบไม่ต้องคำนึงถึงหลักการและเหตุผล ผมนี่หัวโล่งทั้งก่อนและหลังดูครับ (ก่อนดูไม่คิดมาก หลังดูไม่คิดเยอะ) ใครอยากผ่อนคลายสบายใจล่ะก็ขอแนะนำเรื่องนี้เลยครับ เพลินดีจริง
Army of Thieves นี่ผมจัดว่าชอบพอสมควรเลยครับ เป็นหนังโจรกรรมที่ทำออกมาได้คล่องคอ แม้จะไม่ถึงกับสุดยอดสุดโคตร แต่ผมว่าตัวหนังออกมาตอบโจทย์ความบันเทิงได้แบบกำลังดีครับ
ทันทีที่ผมได้ดูตัวอย่างซีรี่ส์นี้ผมก็รอดูเลยครับ เพราะมันน่าจะเข้าทางผมแบบเต็มๆ กับซีรี่ส์แนว Anthology หรือเรื่องสั้น แบบจบในตอน ที่มาพร้อมจินตนาการและเรื่องราวแปลกประหลาด หัวผมนี่ก็นึกไปถึง The Twilight Zone ยิ่งบอกว่าเอาเค้าโครงมาจากเรื่องของ R.L. Stine แล้วด้วย ในหัวก็นึกถึงซีรี่ส์เก่าอย่าง Goosebumps และ The Haunting Hour ขึ้นมาเลย
ผมอาจจะไม่ได้ปลื้ม Those Who Wish Me Dead มากนักนะครับ แต่ผมดีใจนะที่มีการสร้างหนังเรื่องนี้ออกมา
ผมชอบ Greenland มากกว่าที่คิดครับ ตอนแรกยอมรับว่าไม่คาดหวังอะไรเพราะมองว่าเป็นหนังดาวหางล้างโลกอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่น่าจะมีอะไรแปลกใหม่ไปจากสารพัดหนังภัยพิบัติที่ได้ดูเฉลี่ยปีละเรื่องมาหลายสิบปีแล้ว
น่าเสียดายเหมือนกันครับที่ Snake Eyes: G.I. Joe Origins จุดไม่ติด ซึ่งหนังนั้นจริงๆ ก็ดูได้เรื่อยๆ ครับ มีทั้งส่วนที่เข้าท่าและส่วนที่น่าจะดีได้อีกผสมปนเปกัน แต่โดยรวมแล้วก็ยังไม่เวิร์กเท่าที่ควร
ผมดู Good Boys พร้อมมีธงในใจครับ มีธงว่าหนังจะมีทิศทางแบบที่คิดไหม? บทสรุปของหนังจะเป็นแบบที่คาดหรือเปล่าหนอ? แล้วผลลัพธ์ก็คือเป็นไปตามนั้นครับ ส่งผลให้ผมชอบหนังเรื่องนี้ไม่น้อยทีเดียว
เรื่องนี้นี่จัดว่าเข้าทางผมเลยครับ เป็นหนังว่าด้วยปริศนาซ่อนเงื่อน เดินเรื่องเหมือนนิยายที่เปิดไปทีละหน้าๆ ให้เราค่อยๆ รู้จักตัวละคร ค่อยๆ สังเกตรายละเอียดและความผิดปกติบางประการที่เกิดขึ้น ก่อนที่ปมจะเริ่มเปิดให้เราคอยติดตามว่าเรื่องมันจะไปทางไหนต่อ
หลังดู The Marksman จบ ผมมีความรู้สึก 2 แบบเกิดขึ้นครับ แยกออกเป็น รู้สึกต่อตัวหนัง กับ รู้สึกต่อตัวเรื่อง