ที่ตัดสินใจดู Cold Blood Legacy นี่เพราะบารมีของพี่ Jean Reno ล้วนๆ เลยครับ เขาถือเป็นดาราขาประจำที่ผมติดตามผลงานมานานหลายสิบปี พอเห็นหน้าพี่เขาขึ้นปกก็ต้องลองซะหน่อยล่ะครับ
ที่ตัดสินใจดู Cold Blood Legacy นี่เพราะบารมีของพี่ Jean Reno ล้วนๆ เลยครับ เขาถือเป็นดาราขาประจำที่ผมติดตามผลงานมานานหลายสิบปี พอเห็นหน้าพี่เขาขึ้นปกก็ต้องลองซะหน่อยล่ะครับ
สารภาพตามตรงว่ารู้สึกเฉยกับ Thunder Force มากครับ คือจริงๆ ก็พอเดาได้ตั้งแต่ดูตัวอย่างแล้วล่ะครับว่าน่าจะเฉย แต่ก็ยังตามดูเผื่อมันจะสนุกบ้างอะไรบ้าง แต่พอได้ดูนี่กราฟมันนิ่งจริงๆ
พอดูจบแล้วอยากบอกทีมงานทุกคนเลยครับว่า “เฮ่อออออ… แค่นี้แหละจ้า ที่อยากได้ ขอบคุณมากๆ เลย”
สิ่งแรกที่สะดุดใจผมก่อนดูหนังเรื่องนี้คือ หนังยาวประมาณ 2 ชั่วโมง 10 กว่านาทีครับ ซึ่งถือเป็นความยาวที่มากอยู่สำหรับหนังสยองสไตล์นี้ เพราะปกติทั่วไปหนังสยองแบบนี้ (แบบที่ว่าด้วยปีศาจหรืออาถรรพ์อะไรสักอย่าง ไล่ล่าคร่าชีวิตคน) มักจะยาวที่ 90 กว่านาที หรืออย่างเก่งก็ 100 นาทีนิดๆ เท่านั้น ใจก็เกิดคำถามเหมือนกันครับว่าเพราะอะไรหนอหนังถึงยาวแบบนี้
สารภาพครับว่ากะไว้แล้วว่าผมน่าจะเฉยๆ กับหนังเรื่องนี้ เพราะไม่ว่าจะดูจากหน้าหนัง ดูจากตัวอย่าง และดูจากอะไรหลายๆ อย่างแล้วผมออกแนวเฉย และเมื่อดูแล้วก็เป็นไปตามนั้นครับ เฉยจริงๆ
ดูจบไปแล้วหนึ่งรอบครับ และคงต้องซ้ำอีกรอบในเวลาไม่นาน ถ้าถามว่าชอบไหม ก็ตอบได้ว่า “ผมชอบนะ” หนังจัดว่าสนุกดีแม้จะกินเวลา 4 ชั่วโมงก็เถอะ แต่หากใครที่ชื่นชอบเรื่องราวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ของ DC ผมว่าหนังน่าจะคุ้มเวลาในการดูสำหรับท่านครับ
Powder เป็นหนังที่มีอะไรให้พูดถึงหลายอย่างอยู่ครับ
ระหว่างดูหนัง Sausalito เรื่องนี้ ใจก็คิดไปครับว่า “สมัยนี้ หนังรักโรแมนติกแบบนี้ มีน้อยจัง”
ตอนที่ผมดูหนังเรื่องนี้จบ ช่วงที่ End Credits กำลังขึ้น ผมพบว่าตัวเองกำลังพยักหน้าเบาๆ ราวกับกำลังเข้าใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ และขณะเดียวกันการพยักหน้าที่ว่าก็มาจากความรู้สึกของผมที่ยอมรับหนังเรื่องนี้ในระดับหนึ่ง
การดูหนังเรื่องนี้ทำให้ตระหนักเลยครับว่า ระหว่าง “การอยู่ไปวันๆ” กับ “การอยู่เพื่อใครสักคน” นั้น มันมีความแตกต่างกันเพียงไหน…