ผมมานั่งดู Murder Mystery อีกรอบเพื่อต้อนรับภาค 2 ครับ เอาเข้าจริงตอนดูรอบแรกนี่ผมเฉยๆ นะ แต่กลายเป็นว่าพอดูอีกรอบกลับรู้สึกเพลินมากขึ้น ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เป็นเช่นนั้นก็น่าจะเพราะดูแบบพากย์ไทยนี่แหละครับ (รอบแรกจำได้ว่าตอนนั้นยังไม่มีแบบพากย์ไทยครับ)
เมื่อสวนเมเปิ้ลของครอบครัวมีปัญหา ราเชล (Brooke Nevin) จึงต้องรีบหาทางแก้ไขก่อนที่เทศกาลสำคัญจะมาถึง นั่นจึงทำให้เธอได้พบกับ ดร.เดเรค (Carlo Marks) ผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้ที่มาเพื่อช่วยเหลือเธอโดยเฉพาะ แล้วต่อจากนั้นท่านก็คงเดาได้น่ะนะครับ ว่าเมื่อพวกเขาได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากเท่าไร ความรู้สึกดีๆ ก็ก่อตัวมากเท่านั้น
Come Play ถือเป็นหนังสยองที่มาในขนบที่คุ้นเคยสำหรับคอหนังสยองแนวคำสาปหลอนหรือปีศาจตามล่าครับ
One Summer เป็นหนัง Hallmark แบบที่ผมชอบครับ เป็นเรื่องแนวชีวิตว่าด้วยความรักความเข้าใจในครอบครัว ไม่ได้เน้นโรแมนซ์เป็นหลักแบบหนัง Hallmark ส่วนใหญ่ในระยะหลัง
ออโรร่า (Candace Cameron Bure) ไปงานเลี้ยงรุ่นครับ ได้พบเพื่อนเก่ามากมาย แต่ที่เกินคาดหมายของเธอ (แต่อาจไม่เกินคาดหมายของคนดู) คือมีคนตายในงานจนได้ แบบนี้ออโรร่าก็ต้องหาตัวฆาตกรอีกเช่นเคย
เมื่อจู่ๆ มงกุฎล้ำค่าที่จัดแสดงในงานระดมทุนเกิดหายไปอย่างไร้ร่องรอย แล้วพอดีว่างานนี้จัดโดยห้องสมุดแห่งเมืองลอว์เรนซ์ตันครับ ดังนั้นสำหรับออโรร่า (Candace Cameron Bure) แล้ว นี่คือหน้าที่โดยตรงของเธอในการตามหาหลักฐานและสางทุกเงื่อนงำเพื่อหาตัวคนขโมยมาให้จงได้
ว่าตามจริง Run นี่เดาอะไรๆ ได้ไม่ยากครับ ยิ่งใครดูหนังแนวระทึกซ่อนเงื่อนมาเยอะนี่ผมว่าน่าจะเดาอะไรๆ ได้ตั้งแต่แรกเลย ว่าระหว่างแม่ (Sarah Paulson) กับลูกสาว (Kiera Allen) คู่นี้ มีความสัมพันธ์แบบไหนอย่างไรต่อกัน
เหตุผลหลักที่ดู Willy’s Wonderland ก็เพราะพี่ Nicolas Cage เลยครับ บทคลั่งๆ ขรึมๆ แบบนี้เข้าทางพี่เขาล่ะ
อยากดู See How They Run ด้วยเหตุผลง่ายๆ ครับ นั่นคือผมชอบดูหนังสไตล์สืบสวน Whodunit ยิ่งมีกลิ่นอายเกี่ยวข้องกับ Agatha Christie นี่ยิ่งชอบเลย
ยอมรับว่าผมค่อนข้างเฉยกับตอนที่แล้วครับ รู้สึกเฉยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน จนอดถามตัวเองไม่ได้ว่า “หรือว่าเราดูมาแล้ว 10 กว่าตอนเลยเริ่มเฉยกับหนังชุดนี้?” ครั้นพอได้ดูตอนนี้ก็ได้คำตอบว่า “คงไม่ใช่” เพราะผมว่าตอนที่ 12 ของ Aurora Teagarden Mysteries นี้ สนุกใช้ได้เลย
หมื่นทิพ's Review 