พูดแบบไม่อ้อมค้อมคือค่อนข้างเฉยกับภาคนี้ครับ ไม่ได้รู้สึกสนุกหรือครื้นเครงแบบที่มักจะรู้สึกเสมอยามดู Ghostbusters ภาคก่อนๆ
พูดแบบไม่อ้อมค้อมคือค่อนข้างเฉยกับภาคนี้ครับ ไม่ได้รู้สึกสนุกหรือครื้นเครงแบบที่มักจะรู้สึกเสมอยามดู Ghostbusters ภาคก่อนๆ
จอห์น อัลแมน (Harry Connick Jr.) ร็อคสตาร์ชื่อดังกำลังอยู่ในช่วงขาลงครับ ทีนี้พอจิตตกมากๆ พี่แกเลยพาตัวเองหลีกหนีจากเมืองใหญ่แล้วมาพักตากอากาศที่ไซปรัส แต่กลายเป็นว่าที่นี่เขาได้เจอกับ เซีย (Agni Scott) รักเก่าเมื่อวันวาน และยังได้เจอกับ เมลิน่า (Ali Fumiko Whitney) สาวน้อยเสียงดีที่ร้องเพลงในร้านอาหาร – งานนี้จอห์นกำลังจะได้เจอกับเรื่องวุ่นๆ ป่วนๆ สะกิดหัวใจครับ
แม้ว่าหนังภาคนี้จะบอกว่าเป็นบทสรุปของไตรภาค แต่ผู้กำกับ Antoine Fuqua เคยให้สัมภาษณ์ไว้ครับว่าถ้าพี่ Denzel Washington แกเอ่ยปากว่าอยากทำต่อ ไม่ว่าจะภาคต่อหรือภาคก่อนหน้า (Prequel) ก็ตาม เขาก็พร้อมจะกลับมาร่วมงานด้วยเสมอครับ
ทุกๆ 10 ปีจะมีการประลองที่ลือลั่นสะเทือนยุทธภพระหว่างจอมยุทธจีนและญี่ปุ่น และครั้งนี้ก็เช่นกันครับ – ปู้ชิงหวิน (หลิวสงเหยิน, Damian Lau) ศิษย์วัดเส้าหลิน ตัวแทนชาวจีน กับมิยาโมโตะ อิจิโร่ (ฉีเส้าเฉียน, Norman Chu) ลูกศิษย์รุ่นที่ 4 ของพรรคชินคาเกะ ตัวแทนชาวญี่ปุ่น พวกเขามีนัดหมายประลองกันที่สำนักเทพกระบี่
ผมเคยดูภาคนี้ไปหนึ่งรอบเมื่อตอนมันออกใหม่ๆ ตอนนั้นดูแบบไม่ได้เอาภาคแรกมาดูซ้ำก่อนดูภาคนี้ ความรู้สึกที่ได้ก็ประมาณว่าชอบภาคแรกมากกว่า และรู้สึกสนุกกับภาคนี้ไม่มากนัก
ผมเพิ่งรู้ครับว่าหนังเรื่องนี้มันมี 2 เวอร์ชั่น
หนังฮาว่าด้วย 3 หนุ่มสายกะล่อน (โจวซิงฉือ, จางเซี๊ยะโหย่ว, ม่อเส้าชง) ที่มาเปิดร้านตัดผมใหม่สดติดกับร้านตัดผมดั้งเดิมที่เปิดตรงนี้นานแล้ว แน่นอนว่าเจ้าของร้าน (อู๋เย่าฮั่น, Richard Ng) ย่อมไม่สบอารมณ์ครับ แต่แล้ว 3 หนุ่มก็มีอันต้องเทียวไล้เทียวขื่อมายังร้านตัดผมเจ้าเดิมแห่งนี้อยู่บ่อยๆ เนื่องจากอาอิง (จางเหมี่ยน, Cheung Man) ลูกสาวเจ้าของร้านสวยมาก จนพวกเขาต้องแย่งกันมาจีบ
หนังบู๊ที่เฮียเฉินหลงได้มาเจอกับ John Cena ครับ เนื้อหาว่าด้วยหน่วยรบพิเศษที่ได้รับภารกิจไปอพยพพนักงานในโรงกลั่นแห่งหนึ่งให้สามารถหนีมายังเขตปลอดภัย แต่ก็แน่นอนล่ะครับว่าระหว่างทางนั้นพวกเขาก็ต้องเจอกับอุปสรรคสารพัด ไหนจะมีวายร้ายที่มาพร้อมแผนการใหญ่อีก งานนี้ก็เลยต้องมีการสู้ฟัดกันตามระเบียบครับ
อย่างแรกที่ต้องบอกเลยคือ นี่ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นครับ
ปี 1995 ถือเป็นปีที่คู่หูผู้อำนวยการสร้าง Don Simpson และ Jerry Bruckheimer กลับมาผงาดอย่างเต็มภาคภูมิ – หลังจากสะดุดไปกับ Days of Thunder – โดยปีนั้นพวกเขามีหนังฮิตถึง 3 เรื่อง ได้แก่ Bad Boys, Dangerous Minds และ Crimson Tide ที่ผมกำลังจะพูดถึง