ครับ ภาค 3 นีี่ทันทีที่ออกมาผมก็เช่ามาตั้งกะวันแรก ซึ่งคงไม่ต้องบอกนะครับ ว่าผมคาดหวังอะไร อิอิ
ครับ ภาค 3 นีี่ทันทีที่ออกมาผมก็เช่ามาตั้งกะวันแรก ซึ่งคงไม่ต้องบอกนะครับ ว่าผมคาดหวังอะไร อิอิ
แล้วภาค 2 ก็ตามมา ครั้งนี้เป็นเรื่องของ แพทริค รอสส์ (Justin Lazard) นักบินอวกาศที่ไปดาวอังคารมา และก็ไปติดเชื้อนรกแบบเดียวกับ DNA ของซีลเมื่อภาคก่อน ทำให้เขาเปลี่ยนไป พอกลับมาถึงโลกได้ก็ไล่สืบพันธุ์ฟันหญิงไปทั่วเลยครับ ทีมงานไล่ล่าจากภาคก่อนเลยต้องตามมาสู้กับมันอีกครั้ง
ภาคแรกนั้น เป็นเรื่องของโครงการทดลองลับของรัฐบาลที่เอา DNA จากต่างดาวมาเพาะพันธุ์และมันก็หนีไป จากเด็กหญิงเธอก็เจริญเติบโตในชั่วข้ามคืน กลายเป็นสาวโคตรเซ็กซี่ และจุดประสงค์ของเธอก็คือ การสืบพันธุ์ ทำให้รัฐบาลต้องส่งคนไปตามล่าเธอ ก่อนสายพันธุ์นรกจะก่อกำเนิดขึ้น
ภาคสุดท้ายของ Midnight Run ฉบับดั้งเดิมครับ หนนี้ แจ็ค เวลช์ (Christopher McDonald) นักล่าเงินรางวัลคนเก่งได้รับงานให้พาตัวสาวสวยนามว่า ลอร์น่า (Melora Walters) ซึ่งหนีไปเม็กซิโก เนื่องจากเธอโดนหลอกใช้ และโดนทางการตามล่าเนื่องจากคิดว่าเธอคือฆาตกร
ภาค 3 ของหนังชุด Midnight Run ที่ทำออกมาเพื่อลงวีดีโอครับ ภาคนี้แจ็ค เวลช์ (Christopher McDonald) ต้องเดินทางไปยังเมืองชนบทในโอคลาโฮม่า เพื่อลากตัว เดล แอดเลอร์ (Kyle Secor) ที่หนีประกันไป
Midnight Run ภาคแรกถือเป็นหนังแอ็กชันคู่หูที่สนุกเข้าขั้นอีกเรื่องครับ และจัดว่าประสบความสำเร็จไปพอตัว และนี่คือหนังภาคต่อที่ทำสำหรับลงวีดีโอครับ ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่งของค่าย Universal ที่มักเอาหนังดังๆ ในอดีตของตนเองมาทำหนังลงทีวีหรือไม่ก็ลงม้วนแบบนี้ (ประมาณว่ามีแฟนๆ ตามดูอยู่แล้ว เลยทำออกมา)
หนังตั้งชื่อไทยได้ไม่เลวนะว่ามั้ย ฟังแหม่งๆ แต่ก็พอทำเนาน่ะครับ
ผมว่าพวกคำพังเพยสุภาษิตทั้งหลายของบ้านเรามันก็ค่อนข้างตรงกับความจริงเน้อะ คือเห็นจริงได้ตลอดหากเราสังเกตกันดีๆ และจากหนังเรื่องนี้ก็เข้าข่ายลางเนื้อชอบลางยาไปเต็มๆ
ผมมักบอกกับตัวเองและใครๆ เสมอว่าอย่าตั้งความหวังกับสิ่งใดมากจนเกินไป โดยเฉพาะกับการดูภาพยนตร์
อย่างที่ผมเคยบอกล่ะครับว่าชอบดูหนังแนวสยองขวัญ ลึกลับ เพราะมันลุ้นดีกว่า เอ้า เขาจะมีอะไรมาทำเสนอเราอีกบ้าง ทั้งๆ ที่พล็อตมันก็ย่ำกันไปกันมาจนไม่มีที่ให้ประทับรอยเท้ากันแล้ว