หยิบ โหดตัดโหด มาดูเมื่อไร ต้องหยิบ โหด เลว ดี มาดูต่อ ไม่งั้นลมปราณความมันส์จะขาดช่วง!
หยิบ โหดตัดโหด มาดูเมื่อไร ต้องหยิบ โหด เลว ดี มาดูต่อ ไม่งั้นลมปราณความมันส์จะขาดช่วง!
ใครยังจำ บันล็อค ผู้ชายทะลุเวลา ได้บ้างครับ
รู้ไหมครับว่าผมต้องใช้เวลาราวหนึ่งวันกว่าจะมานั่งเขียนถึงอินดี้ภาค 4 นี่ได้ เพราะตอนดูจบรอบแรกแล้วอารมณ์มันกึ่มๆ ใช้ได้เหมือนกัน
ภาคนี้เป็นการกลับมาของโคตรเซียนเกาจิ้ง (โจวเหวินฟะ) ครับ หนังกำกับโดยหวังจิ้งเจ้าเก่า ในขณะที่โทนหนังก็กลับมาเน้นความเข้มและจริงจังแบบคนตัดคนภาคแรก โดยจะมีมุกฮาแทรกบ้าง แต่จะไม่มากเท่าภาค 2 – 3 ครับ
ถือเป็นหนังที่เข้าทางผมเลยครับ เรื่องราวลึกลับหลอนๆ ผสมเรื่องเหนือธรรมชาติเกี่ยวกับอำนาจลี้ลับที่มาพร้อมปริศนา (ว่าตกลงมันคืออะไรกันแน่) แม้ตัวหนังจะไม่ได้สุดยอดก็ตาม แต่ถือว่าดูได้เพลินๆ ไม่ผิดหวังเท่าไรครับ (อาจเพราะลดความคาดหวังไปตั้งแต่ต้นนั่นเอง 555)
สตาร์ไฟลท์ วัน คือเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงที่ผู้สร้างกล่าวว่าสามารถเดินทางจากนิวยอร์กถึงลอนดอนได้ภายใน 4 ชั่วโมง และในเที่ยวบินปฐมฤกษ์นั้นเองได้เกิดเหตุไม่คาดฝันครับ เมื่อเครื่องบินไปค้างอยู่ตรงชั้นบรรยากาศ ทำให้ทุกฝ่ายทั้งบนเครื่องและพื้นโลกต้องพยายามกู้ภัย นำเครื่องกลับลงสู่พื้นให้ได้
เป็นหนังที่ผมไม่ได้คาดหวังและไม่รู้อะไรก่อนดูเลยครับ เพราะหน้าหนังดูเป็นเกรดบีที่ไม่น่าจะมีอะไร แต่ไปๆ มาๆ หนังดูเพลินใช่เล่น
จริงๆ แล้วนี่คือหนังที่ฟอร์มดีมากๆ นะครับ เพราะรวมดาราระดับออสการ์มากันคับคั่ง ไม่ว่าจะ Kevin Kline, Rod Steiger, and Susan Sarandon (3 คนนี้ได้ออสการ์) Mary Elizabeth Mastrantonio, Harvey Keitel, Danny Aiello (ส่วน 3 คนนี้ได้ชิงออสการ์) และ Alan Rickman ที่รายนี้แม้ไม่เคยชิงออสการ์ แต่ฝีไม้ลายมือก็ไม่เป็นสองรองใคร
ดูหนังเรื่องนี้จบแล้วรู้สึกสงสารทีมงานเลยครับ คือจริงๆ หนังมันไม่ได้แย่นะ มันเป็นหนังแนวแอ็กชันผจญภัยผสมไซไฟที่พอดูได้ แม้จะไม่ได้เจ๋งเป็นพิเศษก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้โล่งโถงหรือน่าเบื่อหนักๆ (แบบ The Last Airbender เป็นอาทิ) แต่รายได้นี่น่าสงสารมาก ทำเงินในอเมริกาแค่ $15.9 ล้าน นี่ไม่ใช่รายได้เปิดตัวนะครับ แต่เป็นรายได้ตลอดการฉายเลย ในขณะที่ถ้ารวมทั่วโลกก็จะอยู่ที่ $83.6 ล้าน ส่วนทุนสร้างน่ะอยู่ที่ $100 ล้าน ผลเลยเจ๊งหนักเจ๊งแรงมากๆ ครับ
จบครบไตรภาคจนได้ครับสำหรับหนังชุดนี้ ซึ่งภาคแรกผมว่ายังโอเคนะ ทำออกมาสนุกในระดับกลางๆ แต่พอมาภาค 2 นี่ออกแนวเลอะซะเยอะ เนื้อเรื่องจริงๆ มันเหมือนจะมีอะไรอยู่ไม่น้อย แต่ดันเล่าให้มันไม่มีประเด็นไปซะงั้น และเน้นมุกขำที่บางทีก็ไม่ค่อยขำซะครึ่งค่อนเรื่อง