ผมดู Spider-Man ภาคนี้ไป 2 รอบครับ รอบแรกดูในฐานะหนังปิดเฟส 3 ของจักรวาล Marvel เป็นการดูต่อจาก Avengers: Endgame ส่วนรอบ 2 เป็นการเอามาดูต่อกันตั้งแต่ฉบับ Tobey ต่อด้วย Andrew ดูเพื่อเตรียมไปสนุกกับภาค No Way Home
ผมดู Spider-Man ภาคนี้ไป 2 รอบครับ รอบแรกดูในฐานะหนังปิดเฟส 3 ของจักรวาล Marvel เป็นการดูต่อจาก Avengers: Endgame ส่วนรอบ 2 เป็นการเอามาดูต่อกันตั้งแต่ฉบับ Tobey ต่อด้วย Andrew ดูเพื่อเตรียมไปสนุกกับภาค No Way Home
Don’t Look Up ถือว่าอยู่ในหมวดหนังตลก
สำหรับผมแล้ว มันจะไม่ใช่วันคริสต์มาสที่สมบูรณ์ หากผมไม่เอาหนังเรื่องนี้มาดูครับ
ทุกวันคริสต์มาสผมจะต้องเอา A Christmas Carol สักเวอร์ชั่นหนึ่งมาดูครับ เพราะมันเข้ากับบรรยากาศและสาระสำคัญของเรื่องราวมันช่วยกระตุ้นเตือนบางสิ่งเกี่ยวกับชีวิต ให้ย้อนรำลึกถึงสิ่งที่เราเคยทำ สิ่งที่เราทำอยู่ และสิ่งที่จะเกิดขึนต่อไปในอนาคต (อันเป็นผลจากการกระทำของเรา)
ผมให้เวลาตัวเองหลายวันสักหน่อยหลังดู The Matrix Resurrections ครับ ก็กลายเป็นว่าจะผ่านไปกี่วันความรู้สึกที่มีต่อหนังก็ยังเหมือนเดิม
ออกตัวก่อนล่วงหน้าครับ ว่าสิ่งที่ผมเขียนต่อไปนี้ถือได้ว่าขาดความเป็นกลางอย่างยิ่ง เพราะผมชอบหนังเรื่องนี้เข้าให้แล้วน่ะครับ
ผมชอบ Last Christmas ตั้งแต่รอบแรกที่ดูครับ อาจไม่ถึงกับชอบแบบสุดๆ แต่โดยรวมแล้วผมชอบสิ่งที่หนังนำเสนอและชอบโทนของหนังครับ
Christmas with the Darlings อีกหนึ่งหนังรักวันคริสต์มาสครับ ตัวเอกคือ เจสสิก้า ลิว (Katrina Law) ผู้ช่วยสาวของนักธุรกิจใหญ่ชาร์ลส์ ดาร์ลิงตัน (Steve Bacic) ซึ่งพอดีว่าชาร์ลส์จะต้องไปทำธุรกิจที่ยุโรปครับ เขาเลยขอให้เจสสิก้าช่วยรับหน้าที่ดูแลหลาน 3 คนของเขาระหว่างที่เขาไม่อยู่
A Boy Called Christmas เล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยนิโคลัส (Henry Lawfull) กับการออกเดินทางฝ่าป่าเขาลุยหิมะไปตามหาพ่อ (Michiel Huisman) ที่เงียบหายไปหลังรับภารกิจหาหมู่บ้านภูตเอลฟ์ที่ชื่อว่า เอลฟ์เฮล์ม แล้วนั่นล่ะครับคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยแห่งคริสต์มาส
Grounded for Christmas หนังรักวันคริสต์มาสที่มาในสูตร “แกล้งเป็นแฟนหลอกๆ แต่สุดท้ายก็ได้เป็นแฟนกันจริงๆ” ครับ