ภาคแรกดังก็ย่อมต้องมีภาค 2 ตามออกมา กับสมศรี โปรแกรมบีปีนี้ 2 ขวบ
ภาคแรกดังก็ย่อมต้องมีภาค 2 ตามออกมา กับสมศรี โปรแกรมบีปีนี้ 2 ขวบ
เปิด สมศรี #422 อาร์. ดูด้วยเหตุผลง่ายๆ ครับ คืออยากดูอะไรก็ได้ที่ดูง่าย ไม่ต้องติดเยอะ เนื้อหาเบาๆ เปิดเหมือนเปิดเป็นเพื่อนระหว่างทำงาน แล้วอีกใจหนึ่งก็อยากดูอะไรที่เคยดูแต่ไม่ได้ดูนานแล้วด้วย
ปี 2551 (2008) นั้นถือเป็นปีแห่งรวมญาติบนจอหนังเลยล่ะครับ เราได้เจออินเดียน่า โจนส์ลากสังขารมาหาขุมทรัพย์ แล้วยังได้เจอพ่อหนุ่มคนซื่อเมืองสุพรรณ บุญชู บ้านโข้ง (สันติสุข พรหมสิริ) พร้อมโมลี (จินตหรา สุขพัฒน์) และผองเพื่อนครบก๊วน งานนี้ยังหอบลูกชายชื่อว่าบุญโชค (ธนฉัตร ตุลยฉัตร) มาแนะนำให้เรารู้จักกันด้วย
ชื่อตอนสั้น ความยาวก็ไม่มากครับสำหรับภาคนี้ ที่จับเอาเรื่องราวหลังจากบุญชูกับโมลีได้แต่งงานกันและกำลังจะมีลูกในไม่ช้า แต่ก็เกิดเหตุร้ายขึ้น เมื่อมีโจรบุกปล้นตลาด ยิงปืนต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนคุณโมโดนลูกหลงเข้ากลางหลัง โอกาสเป็นตายเท่ากัน
และแล้วบุญชูกับโมลีก็ได้ฤกษ์ร่วมหอลงโรงกันซะที แต่ก็เกิดปัญหาใหญ่ เพราะแม่บุญล้อมต้องการให้โมลีแต่งมาอยู่สุพรรณ ส่วนพี่มานี (พี่สาวของโมลี) ก็อยากให้บุญชูย้ายมากรุงเทพ ทีนี้ด้วยประเพณียังไงฝ่ายหญิงก็ต้องมาอยู่กับฝ่ายชายที่บ้านเก่าริมคลอง พี่มานีเลยยื่นคำขาดว่าจะยอมปล่อยให้น้องสาวคนเดียวมาอยู่บ้านนอกก็ต่อเมื่อบุญชูสามารถทำให้คลองสะอาด น้ำใสไร้มลพิษ ไม่งั้นก็ไม่ให้ย้ายอะไรทั้งนั้น
ครองตำแหน่งชื่อตอนยาวยืด พิสดารที่สุด และยังมีประเด็นดีๆ อัดแน่นไม่แพ้ภาคสอง
แฟนหนังไทยงงกันไปพักหนึ่ง ที่จู่ๆ บุญชูดันก้าวกระโดด จาก 1, 2 ไป 5 เฉยเลย จนมีคนถามว่า 3, 4 น่ะไปไหน แล้วคนสมัยนั้นก็เอามาอำกันว่า “อ้อ 3 4 ไปรังสิต” วิญญาณพี่หยอยเข้าสิงแท้ๆ แหม ของเขาแรงจริง
ภาคนี้ทำเงินมากกว่าและได้รับการขนานนามว่าดีกว่าภาคแรก ในแง่คุณภาพ อาจเรียกได้ว่าดีที่สุดในหนังชุดนี้!
นี่คือเรื่องราวตอนแรกที่แนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับหนุ่มสุพรรณคนซื่อผู้นี้ครับ
ถือเป็นภาพยนตร์ฟีลกู๊ดรุ่นเก่าที่ชวนให้ยิ้มได้เสมอๆ ครับ แม้อายุหนังจะ 30 กว่าปีโดยประมาณผ่านมาแล้วก็ตาม