กั๊วะจิ้นอัน เป็นพระเอกนะครับ เป็นตำรวจที่เผอิญสามารถติดต่อกับพ่อตัวเองในอดีตได้ (ติดต่อทางมือถือรุ่นกระดูกหมาน่ะครับ) แล้วก็ช่วยกันไขคดีต่างๆ นี่เล่าคร่าวๆ น่ะครับ มันออกจะคล้ายๆ Frequency นั่นแหละ
กั๊วะจิ้นอัน เป็นพระเอกนะครับ เป็นตำรวจที่เผอิญสามารถติดต่อกับพ่อตัวเองในอดีตได้ (ติดต่อทางมือถือรุ่นกระดูกหมาน่ะครับ) แล้วก็ช่วยกันไขคดีต่างๆ นี่เล่าคร่าวๆ น่ะครับ มันออกจะคล้ายๆ Frequency นั่นแหละ
15 ปี… การที่เราดูซีรี่ส์อะไรสักอย่างต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 15 ปีนั้น นับว่าเป็นการติดตามที่นานโขอยู่นะครับ 😊
ทุกวันนี้ผมยังตามดู CSI เวกัสอยู่เสมอครับ ออกมากี่ปีก็ตามดูกัน หรือพอช่อง Mono29 เอามาฉายผมก็ยังตามดู โดยเฉพาะปีแรกๆ ที่มีกริสซั่มอยู่ แม้จะดูครบทุกตอนแล้วก็เถอะ แต่พอเอาดูอีกก็ยังสนุก
2 ภาคแรกดัง ก็ต้องมีการทำภาค 3 ตามออกมาครับสำหรับ คดีดังกองปราบ 3 ที่สานต่อเรื่องราวจากคราวก่อน พร้อมทั้งนำคดีฆาตกรรมมาให้เราตามไขอีก โดยภาคนี้ยาว 40 ตอนจบ หรือหากนับเป็นคดีก็มีประมาณ 10 คดีครับ
แม้หนัง Scream ต้นฉบับจะถือว่าเป็นต้นตำรับของหนังเชือดยุคใหม่ แต่กับ Scream ฉบับซีรี่ส์แล้ว ก็ต้องยอมรับครับว่ามันมีซีรี่ส์สไตล์คล้ายๆ กัน (ว่าด้วยวัยรุ่นตามสืบคดีฆาตกรรม) ออกมาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะ Veronica Mars, Pretty Little Liars และ How to Get Away with Murder
ด้วยความที่ภาคแรกประสบความสำเร็จ ภาคต่อเลยถูกสร้างตามออกมาอย่างรวดเร็วครับ และหนนี้ก็มีการเพิ่มจำนวนตอนจากที่ภาคแรกมีแค่ 20 ตอน มาภาคนี้เพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 40 ตอนจบครับ
จัดเป็นซีรี่ส์แนวสยองขวัญผสมตลกร้ายที่แหวกแนวพอประมาณครับ มันคือการจับเอาหนังสยองขวัญไล่เชือดมายำกับหนังวัยรุ่นแนวเริ่ดๆ เชิ่ดๆ แล้วก็ปรุงคาแรคเตอร์ของแต่ละตัวละครให้ออกมาเว่อร์วังอลังการ ตามด้วยการลดปริมาณสมองให้น้อยๆ เข้าไว้ ซึ่งผลที่ได้แม้จะไม่ลงตัวเต็มร้อย แต่ก็ดูได้สนุกแบบแสบๆ คันๆ (สำหรับคอหนังสยองน่ะนะครับ)
ผมนั้นโตมากับการดูหนังจีนชุดครับ เวลาไปร้านวีดีโอนอกจากดูหนังเรื่องเดี่ยวๆ แล้วก็มักจะหอบหนังจีนชุดเรื่องที่สนใจกลับมาดูด้วย บางครั้งหอบมาทีเป็นสิบม้วนเล่นเอากล้ามขึ้นกันไปข้างหนึ่งเลย – หรือไม่บางเรื่องก็ต้องอาศัยดูทางทีวี หลังเลิกเรียนก็ต้องพยายามรีบกลับบ้านเพื่อจะได้มาดูให้ทัน นึกไปนึกมามันก็คือความสุขเมื่อวันวานน่ะนะครับ
หากนี่จะต้องเป็นปีสุดท้ายของซีรี่ส์ Sherlock ล่ะก็ ผมถือว่าโอเคเลยครับ มันสรุปจบเรื่องราวได้อย่างพอเหมาะ จบแบบทิ้งความประทับใจไว้ เป็นการจบที่สวยงามดี (ในความคิดผมน่ะนะครับ)
เพิ่งดูจบปี 3 ไปครับ ก็ขอรวบมาเล่าตามเคยว่า “ชอบ” เป็นซีรี่ส์แนวสืบจากศพที่สนุก ใช่ครับ มันออกแนวสนุกจริงๆ เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ตัวละครมีชีวิตชีวา อันนี้ถือเป็นจุดเด่นของโชว์นี้เลยนะครับ ดาราแต่ละคนเหมาะกับบท คาแรคเตอร์ของพวกเขาชูรสให้กับเรื่องราวได้มาก