หนังระทึกที่มาพร้อมสูตรเดิมๆ แบบที่เราเคยเห็นกันมาหลายครั้งหลายหน แต่ผู้กำกับ Fede Alvarez (Evil Dead ฉบับรีเมค) ก็สามารถเอาสูตรที่ว่ามาใช้อย่างได้ผลครับ ปรุงจนออกรส แล้วก็เอามาดูได้อย่างเพลิน (ผสมเกร็ง) เลยล่ะ
หนังระทึกที่มาพร้อมสูตรเดิมๆ แบบที่เราเคยเห็นกันมาหลายครั้งหลายหน แต่ผู้กำกับ Fede Alvarez (Evil Dead ฉบับรีเมค) ก็สามารถเอาสูตรที่ว่ามาใช้อย่างได้ผลครับ ปรุงจนออกรส แล้วก็เอามาดูได้อย่างเพลิน (ผสมเกร็ง) เลยล่ะ
สมัยก่อนเวลาดูหนังประเภทเปิดโปงอะไรสักอย่าง ใจเราก็มักจะเชื่อหรือคิดไปในทิศทางที่ผู้สร้างหนังต้องการนำเสนอยู่เสมอ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่แปลกครับ เพราะผู้สร้างหลายท่านก็อยากให้เราเชื่อ ในขณะที่อีกหลายท่านก็พยายามสื่อสารอธิบายกับเรา จากมุมที่เขามอง
ช่วงนั้นกระแสของ Gone Girl กำลังมาครับ เลยทำให้ชื่อของ Gillian Flynn เจ้าของนิยายต้นฉบับที่ดังอยู่แล้วในวงการนิยายสืบสวน เป็นที่รู้จักมากขึ้นสำหรับคอหนัง
ด้วยความที่การโปรโมตเน้นไปที่ความเป็นหนังแอ็กชัน อีกทั้งยังเน้นว่ากำกับโดย David Leitch ที่ร่วมกำกับ John Wick อีก จึงไม่แปลกครับที่หลายคนจะคิดว่านี่จะต้องเป็นหนังบู๊สาดกระสุนแบบ John Wick
Denzel Washington มารับบทเป็น พาร์คเกอร์ บาร์นส์ อดีตนายตำรวจที่โดนจำคุกเพราะทำงานผิดพลาดจนทำให้คนตายไป และระหว่างที่เขาอยู่ในคุก เขาก็คือหนูทดลองที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ชอบนำมาเพื่อเข้าไปล่นในโปรแกรมเสมือนจริง ในการฝึกไล่จับผู้ร้าย และพาร์คเกอร์คือผู้เดียวที่สามารถต่อกรกับ ซิด 6.7 (Russell Crowe) สุดยอดวายร้ายในโปรแกรมนั้นได้
Mark Wahlberg เป็นนักแสดงที่ผมทึ่งแกเหมือนกันนะครับ ภาพแรกๆ ที่ผมจดจำแกได้คือในฐานะนายแบบกางเกงใน Calvin Kline (ยุคนั้นนิตยสารบันเทิงต่างประเทศของบ้านเรานำภาพพี่แกมาลงบ่อยๆ) ตามด้วยการเป็นแร็ปเปอร์ แล้วก็เล่นหนังในบทวัยรุ่นอีกหลายเรื่อง
ตัวหนังก็เป็นแนวระทึกลึกลับที่ทำออกมาได้ดีครับ บรรยากาศมันดูน่ากลัว อึมครึมทั้งที่บางฉากมันก็สว่างโล่ แต่อารมณ์และการแสดงของตัวละครก็ทำให้มันดูอึมครึมอึดอัดขึ้นมาได้อย่างพอเหมาะพอดี
ผลงานระยะหลังๆ ของ Steven Spielberg นี่หวังขึ้นหิ้งอย่างเดียวเลยครับ ประมาณว่าทำหนังเอาใจผู้ชมเพื่อสะสมทรัพย์มาเยอะแล้ว พอตอนนี้เขาขึ้นแท่นเป็นตำนานและไม่ต้องสนเรื่องรายได้มากเท่าเมื่อก่อน ก็เลยขอเลือกทำหนังดีๆ ประดับวงการเป็นงานหลักซะเลย
หนังสไตล์เอาความจริงของสังคมมาตีแผ่นี่จัดว่าเข้าทางผมเลยครับ ดูแล้วชอบเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าจะชอบมากหรือชอบน้อยเท่านั้นเอง และสำหรับเรื่องนี้ ผมเข้าข่ายชอบมากครับ
ว่าตามจริงแล้วหนังเรื่องนี้มีพล็อตที่น่าสนใจครับ สามารถเอาประเด็นต่างๆ มาเล่าและมาเล่นได้แบบเพียบเลย แต่ผลที่ได้กลับไม่ถึงจุดที่น่าพอใจสักเท่าไร