อีกหนึ่งหนังที่ดูแล้วชอบแบบไม่ทันตั้งตัว และใช่ครับ มันคือหนังแนว “ว่าด้วยช่วงหนึ่งของชีวิตคน” นั่นเอง
อีกหนึ่งหนังที่ดูแล้วชอบแบบไม่ทันตั้งตัว และใช่ครับ มันคือหนังแนว “ว่าด้วยช่วงหนึ่งของชีวิตคน” นั่นเอง
อีกหนึ่งหนังแนวสร้างพลังใจครับ ด้วยการเอาชีวิตของนักมวยนักเทศน์ จอร์จ โฟร์แมน มาบอกเล่า
ถ้าท่านชอบหนังกีฬา ชอบหนังที่สร้างจากเรื่องจริง ชอบหนังที่สร้างแรงบันดาลใจ ชอบหนังที่เหมือนจุดไฟในตัวให้ฮึกเหิม ผมก็ขอบอกว่า “จัดเรื่องนี้สิครับ จะรออะไร”
ภาคนี้ผมว่าได้เลยครับ แม้มันอาจจะดูสั้นหรือห้วนไปบ้างในบางวาระ แต่รวมๆ ผมชอบครับ
ผมว่าแรกเริ่มเดิมที หนังเรื่องนี้มันคือรีเมคของฉบับปี 1984 นั่นแหละครับ แต่ทีนี้พอ Cobra Kai ดัง พอจักรวาลต้นฉบับได้รับการสานต่อ สตูดิโอเลยจัดการรวมจักรวาลเข้าด้วยกันไปเลย ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ เพราะหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าดูสนุกใช้ได้อยู่
สก็อต วอสส์ (Kevin James) ครูสอนชีววิทยาที่หมดไฟและใช้ชีวิตไปวันๆ แต่แล้วทุกสิ่งก็มีอันเปลี่ยนไปเมื่อเขาทราบว่าโรงเรียนกำลังถูกตัดงบและเพื่อนร่วมงานของเขาอย่างมาร์ตี้ (Henry Winkler) กำลังจะตกงาน แล้วไหนจะโครงการดนตรีของนักเรียนกำลังจะถูกยุบอีก เขาเลยเอ่ยปากต่อหน้าที่ประชุมว่าจะหาเงินมาช่วยโรงเรียนให้ได้ และวิธีหาเงินของเขาก็คือการไปลงสนามนักสู้ใต้ดิน แล้วความสนุกก็เริ่มต้นตรงนั้นล่ะครับ
อดีตดาวอเมริกันฟุตบอลพิตต์สเบิร์ก พอล ครูว์ (Adam Sandler) ก่อเรื่องซะจนถนนป่วนขนานหนัก พี่ท่านเลยโดนจับเข้าคุกซะ แล้วทีนี้ในคุกเนี่ย ท่านพัสดี (James Cromwell) ก็อยากจะให้พอลมาช่วยปั้นทีมนักโทษให้มาแข่งกับทีมผู้คุม แล้วความสนุกก็เริ่มขึ้นที่ตรงนั้นครับ
ภาคแรกถือว่าทำได้ดี ภาคสองก็โอเคกว่าที่คิด ครั้นมาดูภาค 3 ผมก็เผื่อใจไม่คาดหวังตามสูตรครับ เผื่อความโอเคมันจะลดลงตามจำนวนภาค แต่ที่ไหนได้ ภาคนี้ก็ใช้ได้อีกเหมือนกัน ถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับภาค 2 เลย
ก่อนดูนี่ไม่คาดหวังอะไรเลยครับ เพราะรู้ว่าเป็นหนังภาคต่อแบบทำลงทีวีก่อนจะออกแผ่นในเวลาต่อมา แล้วก็ทำหลังจากภาคแรกตั้ง 14 ปีแน่ะ
อีกหนึ่งหนังแนวสร้างแรงบันดาลใจที่นำเอาเรื่องจริงมาเป็นเค้าโครงครับ