ยอมรับเลยครับว่าตอนดูหนังไปได้ครึ่งเรื่อง ความคิดที่ผุดขึ้นในใจคือ “สงสัยเราจะไม่เขียนอะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้แฮะ” เพราะรู้สึกเฉยๆ น่ะครับ ถ้าให้จำกัดความก็คงต้องบอกว่าไม่แนว ไม่รู้สึกปิ๊งปั๊งอะไรกับตัวหนังเท่าไร
ยอมรับเลยครับว่าตอนดูหนังไปได้ครึ่งเรื่อง ความคิดที่ผุดขึ้นในใจคือ “สงสัยเราจะไม่เขียนอะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้แฮะ” เพราะรู้สึกเฉยๆ น่ะครับ ถ้าให้จำกัดความก็คงต้องบอกว่าไม่แนว ไม่รู้สึกปิ๊งปั๊งอะไรกับตัวหนังเท่าไร
หลังจากภาคที่แล้ว บริษัทโดนปิดไป เนื่องจากการปราบเจ้าโกเซอร์งวดก่อนมันถล่มเมืองไปเยอะครับ พวกนักปราบผีของเราเลยโดนฟ้งเรียกค่าเสียหายจนเจ๊งบ๊งกันไป แต่แล้ว 5 ปีต่อมาพวกเขาก็กลับมาอีกครั้ง เพราะเริ่มมีความชั่วร้ายก่อตัวขึ้นใต้กรุงนิวยอร์ค มันคือเมือกสีชมพูที่สามารถโต้ตอบอารมณ์ต่อคนได้ และสามารถทำให้คนคิดชั่วทำชั่วได้สารพัดหากไปสัมผัสมันเข้าล่ะ
ดร.ปีเตอร์ เวงแมน (Bill Murray), ดร.เรย์มอนด์ สแตนซ์ (Dan Aykroyd) และ ดร.อีกอน สเปงเลอร์ (Harold Ramis) คือ 3 นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นเครื่องมือจับผีขึ้นมาได้ และเปิดเป็นบริษัทรับจ้างปราบผีทั่วราชอาณาจักร ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลเพราะผีโผล่มาให้ปราบเพียบไปหมด
ผมขอร่ายถึงหนังแนวถนัดที่ดูบ่อยๆ กับแนวไซไฟ ระทึกขวัญของผู้กำกับคนนี้ … John Carpenter
เรื่องราวการผจญภัยกลางอวกาศอีกอันนะครับ เป็นเรื่องราวการบุกสู่หลุมดำของดร.ฮานส์ ไรน์ฮาร์ด (Maximilian Schell) นักวิทยาศาสตร์ผู้บ้าคลั่งแห่งยานซิกนัสที่แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าหลุมดำมันอันตรายแต่ก็ยังดึงดันจะฝ่าเข้าไปให้ได้
แล้วเรื่องราวของดาร์คแมนก็ดำเนินมาถึงภาค 3 นะครับ (ในรูปแบบ VDO จ้า ไม่ได้เข้าโรงอะไรกับเขาหรอก)
ภาคแรกเป็นอย่างไรผมก็ร่ายไปแล้วนะครับ และนี่คือภาคต่อ ที่เขาทำออกมาเป็นหนังลง VDO โดยเฉพาะ ซึ่งตอนนั้นนะครับ เป็นช่วงที่ทางค่าย Universal Pictures เขานิยมเอาหนังฮิตๆ ของตัวเองมาทำภาคต่อลง VDO ก็คงเป็นกลยุทธหนึ่งในการหาเงินหาทางเข้าบริษัทล่ะครับ แล้วก็อย่างที่เคยบอกไปนานแล้วว่า ตลาด VDO นั้นไม่ใช่กระจอกนะครับ หนังลง VDO เลยโดยไม่ผ่านโรงบางทียังทำเงินทำทองได้มากไม่แพ้หนังโรงด้วยซ้ำไป
ถ้าพูดถึงชื่อของ Sam Raimi ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักน่ะนะครับ ก็เป็นที่รู้กันนะครับว่าเขาแจ้งเกิดจริงจังเป็นเรื่องราวตอนทำ The Evil Dead 3 ภาค แล้วชื่อเขาก็ลุ่มบ้างดอนบ้างเรื่อยมาจน Spider-Man นี่แหละที่ทำให้ชื่อเขาคับฟ้าจนทุกวันนี้
คำจำกัดความที่ผมมีให้หนังเรื่องนี้ก็คงเป็นว่า “หนังสนุก เนื้อเรื่องเล่าได้พอเหมาะ แต่อาจจะไม่ได้มันส์ระเบิดระเบ้ออะไร” ว่าง่ายๆ คือถ้าคาดหวังแอ็กชันมันส์ๆ เร้าๆ ล่ะก็ คงต้องขอให้เผื่อใจไว้บ้างครับ
มีคนถามว่า Godzilla ภาคนี้มันมันส์ตรงไหน ดูแล้วผิดหวัง ตัวละครเอาแต่คุยกันทั้งเรื่อง, CG ก็งั้นๆ ตัวก็อตซิลล่าก็หาได้สมจริงไม่ มันชุดยางชัดๆ ฯลฯ ซึ่งก็ตรงกับอีกหลายๆ คอมเมนต์ที่ผมไปเจอมาครับ บางคนถึงขั้นจะเถียงกันก็มี ดังนั้นเลยขอนำมาตอบแบบรวมๆ กันที่นี่ครับ