ภูเขาไฟที่เยลโลว์สโตนกำลังจะปะทุครับ ชาร์ลี (Richard Burgi) เจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่ที่นั่นจึงต้องรีบอพยพผู้คนโดยเร็ว ส่วนเคท (Juliet Aubrey) เพื่อนร่วมงานของชาร์ลีก็ต้องหาทางวางแผนหยุดยั้งการปะทุครั้งนี้ ส่วนเธอจะทำอย่างไรบ้างนั้นต้องไปดูในหนังครับ
ภูเขาไฟที่เยลโลว์สโตนกำลังจะปะทุครับ ชาร์ลี (Richard Burgi) เจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่ที่นั่นจึงต้องรีบอพยพผู้คนโดยเร็ว ส่วนเคท (Juliet Aubrey) เพื่อนร่วมงานของชาร์ลีก็ต้องหาทางวางแผนหยุดยั้งการปะทุครั้งนี้ ส่วนเธอจะทำอย่างไรบ้างนั้นต้องไปดูในหนังครับ
เรื่องนี้จัดว่าน่าดูตรงพล็อตครับ ประมาณว่า 2 นักมวยในตำนานที่ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมาทั้งชีวิตกำลังจะกลับมาชกกันอีกหนในตอนที่พวกเขาแก่จนเกือบหง่อม และนักมวยคู่นั้นก็คือ บิลลี่ “เดอะ คิด” แมคดอนเนน (Robert De Niro) และ เฮนรี่ “เรเซอร์” ชาร์ป (Sylvester Stallone) ซึ่งไฮไลท์ของหนังก็หนีไม่พ้นการดวลหมัดกันระหว่าง 2 คนนี้ในตอนท้าย แต่ขณะเดียวกันตอนระหว่างทางนี้เนื้อหาก็นับว่าโอเคครับ ชวนติดตามใช้ได้อยู่
ชายคนหนึ่งพาลูกสาวย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ แต่แล้วก็เกิดเรื่องแปลกๆ มากมายจนในที่สุดลูกสาวของเขาก็หายตัวไป เขาพยายามออกประกาศตามหาอยู่นานนับเดือนแต่ก็ไม่มีข่าวคราว แล้วจู่ๆ ก็มีหมอผีมาหาเขาพร้อมบอกถึงสาเหตุการหายตัวไปของลูกเขา และดูเหมือนว่ามันจะเกี่ยวข้องกับตู้ที่อยู่ในห้องของเธอนั่นแหละ
โจ แรนดัลล์ (Paul Johansson) อดีตนักล่าพายุที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นครูสอนวิทยาศาสตร์อยู่ในบอสตัน แล้วจู่ๆ ที่นั่นก็เกิดพายุทอร์นาโดขึ้นมากลางทะเลครับ และพายุลูกนี้ก็ไม่ธรรมดาเพราะมันสามารถพัดก้อนหินออกมาจากตัวมัน และก้อนหินนั้นก็ยังสามารถระเบิดได้อีกต่างหาก ทีนี้ทั้งเมืองก็เลยโกลาหลครับ หลายชีวิตต้องสูญเสียไปจากภัยครั้งนี้ ทำให้โจกับเพื่อนนักพยากรณ์อากาศอย่าง ลี คาร์ลตัน (Sebastian Spence) และแมดดี้ (Miranda Frigon) น้องสาวของโจ ต้องร่วมมือกันหาคำตอบว่าอะไรที่ทำให้เกิดพายุชนิดนี้ และที่สำคัญคือจะหยุดมันได้อย่างไร
หนังดราม่าชั้นดีที่พี่ Cuba Gooding Jr. ฝากฝีมือไว้ครับ ในบท ดร. เบน คาร์สัน ศัลยแพทย์หนุ่มมากฝีมือทึ่กำลังจะต้องผ่าตัดแยกเด็กแฝดที่มีสมองติดกัน ซึ่งถือเป็นเคสที่ยากมากๆ และคุณหมอก็ต้องหาทางว่าจะผ่าอย่างไรให้เด็กปลอดภัย โดยระหว่างนั้นหนังก็จะเล่าเรื่องราวชีวิตของคุณหมอเบนตั้งแต่ตอนเด็กให้เราได้รับรู้ไปพร้อมกัน
เรื่องนี้หมายมั่นดูแบบเอามันส์และเอาฮาครับ ซึ่งหนังก็ตอบโจทย์ตามนั้นนะ ดังนั้นใครอยากดูหนังแอ็คชั่นเบาๆ แบบไม่คิดมากก็จัดได้เลยครับเรื่องนี้
ก่อนดูผมก็ปรับใจไว้ในระดับหนึ่งครับ เพราะนี่เป็นหนังของ Richard Linklater แห่งไตรภาค Before Sunrise และ School of Rock ดังนั้นแนวทางของเขาก็จะไม่ใช่หนังตลาด แล้วก็ต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้มาในแนวแอ็คชั่น หรือในแง่ความฮาก็ไม่ได้ฮาแบบระดมยิงมุกอะไรแบบนั้น แต่จะเป็นการให้ดารามาแสดงฝีมือ แล้วก็นำเสนอหนังแบบเบาสมองแบบตามธรรมชาติ (คือไม่เน้นปรุงนั่นแหละครับ)
ถือเป็นหนังเบาสมองสำหรับครอบครัวที่ดูแล้วได้อะไรมากกว่าความเพลินครับ
ถ้าให้จำกัดความภาคนี้ ผมว่าทิศของหนังน่ะมาถูกทางครับ เพียงแต่ยังเล่าเรื่องได้ไม่ถึงรสเท่านั้นแหละ
หนึ่งในหนังซูเปอร์ฮีล่มจาก DC ครับ ล่มหนักกันไปเลย เพราะทำเงินแค่ $10 ล้าน แต่ทุนสร้างน่ะ $47 ล้านครับ