เรื่องราวการผจญภัยกลางอวกาศอีกอันนะครับ เป็นเรื่องราวการบุกสู่หลุมดำของดร.ฮานส์ ไรน์ฮาร์ด (Maximilian Schell) นักวิทยาศาสตร์ผู้บ้าคลั่งแห่งยานซิกนัสที่แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าหลุมดำมันอันตรายแต่ก็ยังดึงดันจะฝ่าเข้าไปให้ได้
เรื่องราวการผจญภัยกลางอวกาศอีกอันนะครับ เป็นเรื่องราวการบุกสู่หลุมดำของดร.ฮานส์ ไรน์ฮาร์ด (Maximilian Schell) นักวิทยาศาสตร์ผู้บ้าคลั่งแห่งยานซิกนัสที่แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าหลุมดำมันอันตรายแต่ก็ยังดึงดันจะฝ่าเข้าไปให้ได้
ภาคแรกสนุกสนาน มันส์มากๆ แจ้งเกิดให้หลายคนครับ แต่มาเรื่องนี้นี่แทบจะแจ้งตายให้ผู้กำกับ Jan de Bont ไปเลย เพราะทั้งเรื่องราวและความสนุกมันไปคนละลู่กับภาคแรกเลยน่ะครับ
หนังเรื่องนี้ดังแค่ไหนคงไม่ต้องสาธยายนะครับ เอาเป็นว่าเรื่องนี้แจ้งเกิดให้ Keanu Reeves, Sandra Bullock และผู้กำกับ Jan de Bont แบบถ้วนหน้าถ้วนตากันกับเรื่องราวหนังแนวโปลิศจับวายร้ายโรคจิต นายตำรวจหนุ่มแจ๊ค ทราเว่น (Reeves) ที่ต้องมาต่อกรกับฮาวเวิร์ด เพย์น (Dennis Hopper) มือระเบิดที่ขู่จะถล่มรถเมล์คันหนึ่งพร้อมผู้โดยสารให้แหลกราญหากตำรวจไม่ยอมจ่ายค่าไถ่ให้มัน
แล้วเรื่องราวของดาร์คแมนก็ดำเนินมาถึงภาค 3 นะครับ (ในรูปแบบ VDO จ้า ไม่ได้เข้าโรงอะไรกับเขาหรอก)
ภาคแรกเป็นอย่างไรผมก็ร่ายไปแล้วนะครับ และนี่คือภาคต่อ ที่เขาทำออกมาเป็นหนังลง VDO โดยเฉพาะ ซึ่งตอนนั้นนะครับ เป็นช่วงที่ทางค่าย Universal Pictures เขานิยมเอาหนังฮิตๆ ของตัวเองมาทำภาคต่อลง VDO ก็คงเป็นกลยุทธหนึ่งในการหาเงินหาทางเข้าบริษัทล่ะครับ แล้วก็อย่างที่เคยบอกไปนานแล้วว่า ตลาด VDO นั้นไม่ใช่กระจอกนะครับ หนังลง VDO เลยโดยไม่ผ่านโรงบางทียังทำเงินทำทองได้มากไม่แพ้หนังโรงด้วยซ้ำไป
ถ้าพูดถึงชื่อของ Sam Raimi ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักน่ะนะครับ ก็เป็นที่รู้กันนะครับว่าเขาแจ้งเกิดจริงจังเป็นเรื่องราวตอนทำ The Evil Dead 3 ภาค แล้วชื่อเขาก็ลุ่มบ้างดอนบ้างเรื่อยมาจน Spider-Man นี่แหละที่ทำให้ชื่อเขาคับฟ้าจนทุกวันนี้
คำจำกัดความที่ผมมีให้หนังเรื่องนี้ก็คงเป็นว่า “หนังสนุก เนื้อเรื่องเล่าได้พอเหมาะ แต่อาจจะไม่ได้มันส์ระเบิดระเบ้ออะไร” ว่าง่ายๆ คือถ้าคาดหวังแอ็กชันมันส์ๆ เร้าๆ ล่ะก็ คงต้องขอให้เผื่อใจไว้บ้างครับ
ออกตัวเลยว่า ผมเขียนบทความนี้ในฐานะ คนที่เคยเผชิญกับ “ความกลัว” ที่เคยมีต่อเพนนีไวส์เมื่อประมาณ 25 ปีก่อน…
ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นอย่างผมหรือเปล่านะครับ แต่ส่วนมากพอได้ยินชื่อ Arnold Schwarzenegger ทีไร มันต้องมีชื่อผู้กำกับ James Cameron ผุดขึ้นมาควบคู่ด้วยทุกทีไป
ผมรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้ อารมณ์ตัวเองกำลัง Down… ดูหนังจบประมาณบ่ายสองกว่าๆ จำได้ว่าออกจากโรงพร้อมความรู้สึก Down และรู้สึกเฮิร์ทนิดๆ ที่ใจ มาถึงตอนนี้จะห้าทุ่มแล้ว ผมก็ยังรู้สึกแบบนั้นอยู่… แน่นอนว่าที่ผมรู้สึกแบบนี้ก็เนื่องมาจาก Captain America: Civil War นี่แหละ