ดูหนังเรื่องนี้ด้วยอารมณ์ยินดีครับ ดีใจที่ Edgar Wright มีหนังร้อยล้านกับเขาสักที จริงๆ ก็เชียร์เขามาหลายเรื่องแล้วล่ะ เพราะชอบหนังของพี่แกทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Shaun of the Dead, Hot Fuzz, Scott Pilgrim vs. the World และ The World’s End
ดูหนังเรื่องนี้ด้วยอารมณ์ยินดีครับ ดีใจที่ Edgar Wright มีหนังร้อยล้านกับเขาสักที จริงๆ ก็เชียร์เขามาหลายเรื่องแล้วล่ะ เพราะชอบหนังของพี่แกทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Shaun of the Dead, Hot Fuzz, Scott Pilgrim vs. the World และ The World’s End
โอย น่ากลัว หนังอะไรของมันเนี่ย น่ากลัวเกินไปแล้วนาจ้า…
ท่าทางผมกับหนังสยองขวัญจะหนีกันไม่พ้นแฮะ เพราะพอเปิดรายชื่อออกมาว่าจะเขียนอะไรดีก็มักจะเจอหนังสยองทุกที
หลังจากภาคแรก ดร.อลัน ไฟน์สโตน (Corbin Bernsen) หมอฆาตกรโรคจิตได้หนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้า พี่ท่านเลยเปลี่ยนชื่อแซ่เป็น ดร.ลอว์เรนซ์ เคน ย้ายไปเมืองใหม่ ทำงานเดิมครับ
เรื่องของหมอฟันผู้ร้ำรวยคนหนึ่ง ดร. อลัน ไฟน์สโตน (Corbin Bernsen) เขามีเงิน มีคนนับถือ และมีเมียสวย (Linda Hoffman) ทุกอย่างดูจะไปได้ดี จนกระทั่งเขาเกิดจับได้ว่าเมียพี่มีชู้ งานนี้พี่ท่านเลยสติแตกครับ
ส่วนหนังเรื่องนี้ บอกแล้วว่าไม่มีสาระครับ ไม่ค่อยจะสนุกด้วย จึงเข้าข่ายคาบหนังมาเตือนอีกจนได้
หนังเรื่องนี้ เจ๊งครับ ลงทุน 65 ล้าน ได้คืนมา 17 ล้านเศษๆเท่านั้นเอง ติดหนึ่งใน 10 อันดับหนังที่ล้มเหลวที่สุดแห่งฮอลลีวู้ด เพราะนอกจากไม่ทำเงินแล้ว นักวิจารณ์ก็ยังด่ากันระยับ อีกทั้งยังมีข่าวลือไม่ดีจากกองถ่ายมากมาย
หนังตลกแนวขึ้นโรงขึ้นศาลเรื่องของ 2 หนุ่มบิลลี่ (Ralph Macchio) กับ สแตน (Mitchell Whitfield) ที่โดนจับด้วยข้อหาฆ่าคนตาย ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ทำ งานนี้ก็ไม่รู้จะทำไงล่ะครับ เงินจ้างทนายก็ไม่มี เลยต้องตามญาติของพวกเขามา นั่นคือ วินนี่ (Joe Pesci) ทนายที่เพิ่งสอบเนติฯได้ หลังจากสอบตกมา 6 ปี อืมม์ ….. มันจะรอดกันมั้ยล่ะครับงานนี้
อันดับแรก อยากทราบว่าใครตั้งชื่อไทยเหรอครับ ไม่ทราบว่าอะไรเข้าฝันครับ ตั้งไปได้ โธ่ (ถ้าจำไม่ผิดคงเพราะรายการ 5 ห้า ฮ่า กำลังดังในช่วงนั้นนั่นเอง … แต่มันเกี่ยวกันตรงไหนฟะ เพราะทีมนักแสดงในเรื่องมันมีตัวนำมากกว่า 5 นะเฟ้ย)
เฮ่อ จริงๆ นี่มันก็เป็นหนังตลกนั่นแหละ นำแสดงโดย Dustin Hoffman และ Warren Beatty สองดาราดังในยุคนั้นนะครับ ซึ่งตอนนั้นเขาได้ค่าตัวไปคนละ 5 ล้านเลยทีเดียว ซึ่งนับว่าสูงมากสำหรับเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ส่วนตัวหนังเองก็ลงทุนไปราวๆ 55 ล้าน