หมวดหมู่: Movie Reviews

The Burning (1981), เชือดยกค่าย

หนังเรื่องนี้เข้าฉายไล่ตามหลังหนังไล่เชือดอย่าง Friday the 13th แต่ถ้าไล่เรียงจริงๆ แล้ว The Burning นั้นมีการเตรียมงานเขียนบทอะไรเสร็จก่อนครับ เพียงแต่ถ่ายทำทีหลังเท่านั้นเอง แต่ก็ส่งผลเหมือนกันครับ ใครๆ เลยพากันนึกว่าหนังออกมาตามกระแสศุกร์ 13

Earth vs. the Flying Saucers (1956), จานบินบุกโลก

อีกหนึ่งหนังแนวไซไฟที่มีเอเลี่ยนขนจานบินมาบุกโลกนะครับ เรื่องนี้คงจะขอพูดไม่ยาวนัก เพราะสารภาพว่าดูแล้วไม่ได้ประทับใจอะไรดังคาดหมายไว้ ทั้งๆ ที่หนังก็เก่ารุ่นราวคราวเดียวกับ The War of the Worlds ที่สร้างก่อนประมาณ 3 ปี แต่เรื่องนั้นสนุกสนาน ตื่นเต้น น่าสะพรึงและน่าติดตามกว่ามากครับ

Unlawful Entry (1992) ฉุดหัวใจด้วยความตาย

ไมเคิล (Kurt Russell) และ คาเรน (Madeleine Stowe) คือ คู่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมานานครับ จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดมีคนงัดแงะเข้าไปในบ้านของพวกเขา แลวยังคิดจะทำร้ายคาเรนเสียอีก

Final Destination 3 (2006) โกงความตาย เย้ยความตาย

หนังอาจไม่ใหม่นะครับ แต่ปกติผมก็ชอบเก็บตกเอาหนังเก่าๆ มาเล่าอยู่แล้วกับผลงานภาคต่อตอนที่สามของเรื่องวัยรุ่นที่ต้องมาหาทางโกงความตาย โดยเนื้อหาไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่หรอกครับ

Final Destination 2 (2003) ไฟนอล เดสติเนชั่น 2 โกงความตาย แล้วต้องตาย

มาว่ากันให้ครบ กับตอนที่สองของหนังชุดโกงความตายที่ยังสานต่อเรื่องราวครับ งานนี้โยงมาที่คนกลุ่มใหม่ นำโดย คิมเบอร์ลี่ คอร์แมน (A.J. Cook) สาวน้อยที่ดันไปเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่กลางทางหลวง ก็เลยจัดการยับยั้งจนคนมากมายรอดมาได้ แต่ก็ซ้ำรอยภาคแรกครับ รอดมาไม่ได้แปลว่าจะรอดตาย ความตายก็ได้จัดการเดลิเวอร์รี่การตายอย่างสุดแสนสยองมาถึงบ้าน

Final Destination (2000) 7 ต้องตาย โกงความตาย

นี่คือต้นแรกเริ่มนะครับ ของเรื่องการโกงความตาย พระเอกคือ อเล็กซ์ แชนซ์ บราวนิ่ง (Devon Sawa) ที่ดันเห็นลางบอกเหตุสารพัดก่อนขึ้นเครื่องบินไปทัศนศึกษา จนเขาสังหรณ์ว่าเครื่องบินลำที่เขากำลังจะขึ้นต้องมีเหตุร้ายแน่ เลยอาละวาดตกใจด้วยความกลัวจนตัวเองและเพื่อนๆ อีกกลุ่มหนึ่งโดนลากออกมาจากเครื่อง

Thank You for Smoking (2005) แผนเด็ดพีอาร์สมองเสธ

ในหนังเรื่อง Amistad ของผู้กำกับ Steven Spielberg มีอยู่ฉากหนึ่งที่กระแทกใจผมเต็มๆ นั่นคือตอนที่ท่านอดีตประธานาธิบดีจอห์น ควินซี อดัมส์พูดในศาลเพื่อแก้ต่างให้เหล่าทาสผิวดำว่า “I realized after much trial and error, that in the courtroom, whoever tells the best story wins”