หมวดหมู่: Movie Reviews

This Means War (2012) ดิส มีนส์ วอร์ สงครามหัวใจ คู่ระห่ำพยัคฆ์ร้าย

ผมว่าหนังสไตล์นี้ทำยากเหมือนกันนะครับ เพราะมันต้องลงล็อคทั้งความโรแมนติกผสมฮา มาบวกเข้ากับแอ็คชั่นแนวสายลับ ซึ่งเรื่องก่อนที่พยายามเล่นสูตรนี้อย่าง Knight And Day ก็ถือว่าพอทำได้แบบเสมอตัว ไม่เลวแต่ก็ยังไม่โดนเต็มร้อย ก็แอบลุ้นก่อนดูเหมือนกันครับว่าแล้วเรื่องนี้จะเข้าท่าแค่ไหน

Captain America II: Death Too Soon (1979), กัปตันอเมริกา ฉบับทีวี ภาค 2

แม้ภาคแรกแฟนการ์ตูนจะไม่ได้ชอบนัก แต่อย่างน้อยเด็กๆ ก็ดูสนุกแบบเอิ้กอ้ากไปได้ ทำให้ผู้สร้างเข็นหนังกัปตันอเมริกาออกมาอีกสักรอบ (ฉายทีวีเหมือนเดิม)

Captain America (1979), กัปตันอเมริกา เวอร์ชั่นฉายทีวี

นี่คือกัปตันอเมริกาเวอร์ชั่นหนังทีวีน่ะครับ สร้างตั้งแต่ปี 1979 ซึ่งก่อนผมจะได้ดูก็รู้เรื่อยมาว่าเวอร์ชั่นนี้โดนสับเป็นบะช่อขนาดไหน แต่ก็นั่นแหละครับ ไม่ดูก็ไม่รู้ ต้องดูถึงจะเข้าใจว่ามันดีหรือไม่แค่ไหน

What Dreams May Come (1998) วอท ดรีมส์ เมย์ คัม พลังรักข้ามขอบฟ้า ตามรักถึงสวรรค์

เชื่อว่าคนรุ่นผม (อายุราว 30 ขึ้น) น่าจะคุ้นชื่อ Robin Wliiams ดี สมัยนั้นถ้าหนังเรื่องไหนที่พี่คนนี้เล่น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่ามีดี สนุก และอาจมีความประทับใจพ่วงมาด้วย

I Am Number Four (2011) ปฏิบัติการล่าเหนือโลก จอมพลังหมายเลข 4

I Am Number Four ทำให้นึกถึง Smallville แล้วผสมด้วย Twilight ซึ่งก็ไม่น่าแปลกล่ะครับ เพราะทีมเขียนบทก็คือ Alfred Gough และ Miles Millar คู่หูผู้สร้าง Smallville นั่นแหละ

Whiteout (2009) ไวท์เอาท์ มฤตยูขาวสะพรึงโลก

เข้าใจผิดไปหลายกิโลเลยครับ ตอนแรกนึกว่าเรื่องนี้มันจะเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดอาละวาดกลางขั้วโลกที่เต็มไปด้วยพายุน้ำแข็ง (จินตนาการไปประมาณ The Thing น่ะครับ) แต่พอดูไปสักพักก็ถึงบางอ้าวครับ นี่มันหนังฆาตกรรมสืบสวนนี่หน่า

To Wong Foo Thanks for Everything, Julie Newmar (1995) สามแต๋ว เฮอะ! ใครว่าไม้ประดับ

ผมเชื่อว่าหลายคนจำหนังเรื่องนี้ได้ครับ… แหม คิดดู สามพระเอกในวงการ แต่ละคนก็ผ่านงานหนังบู๊กันมาแล้วทั้งนั้น พากันมาแสดงเป็นสาวประเภทสอง… และแสดงได้เพริดพริ้งไม่ใช่เล่นซะด้วย

Night of the Living Dead (1990) ซากดิบไม่ต้องคุมกำเนิด

นี่คือฉบับรีเมกนะครับ อำนวยการสร้างโดย George A. Romero เจ้าตำรับหนังซอมบี้ of the Dead ที่ มอบหน้าที่กำกับให้กับเพื่อนรักอย่าง Tom Savini มือเมคอัพ Effect ที่ร่วมงานกันมาเป็นสิบปี ซึ่งนี่ก็เป็นงานกำกับชิ้นแรกและชิ้นเดียวของเขาครับ (ที่เป็นหนังใหญ่น่ะนะครับ)