ว่าตามจริง Last Night in Soho คือหนังแนวตามสืบคดีฆาตกรรมและหาตัวฆาตกรแบบที่เราเคยเห็นกันมานักต่อนักแล้วนะครับ แต่จุดที่ทำให้หนังมีความสดขึ้นมาหน่อยก็คือลีลาลูกเล่นในการเล่าเรื่องและการนำเสนอของผู้กำกับ Edgar Wright
ว่าตามจริง Last Night in Soho คือหนังแนวตามสืบคดีฆาตกรรมและหาตัวฆาตกรแบบที่เราเคยเห็นกันมานักต่อนักแล้วนะครับ แต่จุดที่ทำให้หนังมีความสดขึ้นมาหน่อยก็คือลีลาลูกเล่นในการเล่าเรื่องและการนำเสนอของผู้กำกับ Edgar Wright
ไม่รู้ผมเป็นอยู่คนเดียวไหมน่ะนะครับ แต่ตลอดการดู The Pope’s Exorcist เนี่ย ใจผมมันนึกแต่จะฮาครับ เหมือนในหัวมันคันยิกๆ มันอยากจะขำเป็นระยะๆ
ก่อนเปิด 3 อหังการ์ เจ้าสุริยา – The Warlords ดูนั้นผมลืมตั้งหลักไปนิดนึงครับ ลืมไปว่าหนังน่าจะหนักไม่ใช่น้อยเพราะเป็นแนวสงครามว่าด้วยการฆ่าฟันล้างผลาญ ไหนจะมีเรื่องปมขัดแย้งระหว่างตัวละครอีก เลยทำให้พอดูไปสักพักก็รู้สึกไหล่ล้าบ่าหนักขึ้นมาจนได้
ตอนดู Chicken Run รอบแรกผมก็ว่าหนังฮาดีครับ ดูสนุกดูเพลิน คลายเครียดได้เข้าท่าทีเดียว มาตอนนี้ 23 ปีผ่านไปก็ได้ข่าวว่าจะมีภาคต่อตามออกมาก็เลยเอาภาคแรกมาย้อนดูอีกสักหน ผลที่ได้ก็ยังคงสนุกสนานเหมือนเดิม
เอมิลี่ เจนกินส์ (Renee Zellweger) นักสังคมสงเคราะห์สาวที่ขยันทำงานช่วยเหลือครอบครัวที่มีปัญหา อยู่มาวันหนึ่งเธอได้รับหน้าที่ให้ไปดูแลครอบครัวซัลลิแวนที่ดูเหมือนว่าคนเป็นพ่อและแม่ของครอบครัวนี้ จะดูแลลูกสาวที่ชื่อลิลิธ (Jodelle Ferland) ได้ไม่ดีสักเท่าไร แล้วเมื่อถึงจุดหนึ่งเธอก็ตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยลิลี่ให้พ้นจากมือพ่อแม่ แต่เธอไม่รู้เลยครับว่านั่นแหละคือจุดเริ่มของความสยองที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอและคนรอบตัว
พอดูหนังที่สร้างโดย Netflix บ่อยๆ มันก็ทำให้จับทางได้น่ะครับว่าหนังของที่นี่มันน่าจะประมาณนี้แหละ โทนแบบนี้ สเกลประมาณนี้ อย่างหนังแอ็คชั่นมันก็จะใหญ่ประมาณหนึ่ง ความลุ้นก็ประมาณหนึ่ง แต่มันจะไม่ถึงกับบิ๊กเบิ้มอลังการแบบหนังเข้าโรง เรียกว่ามันจะมีเพดานของมันอยู่
ตอนดู First Daughter จบ ผมบอกกับตัวเองว่าจริงๆ ผมควรจะชอบหนังเรื่องนี้นะ เพราะจะว่าไปผมก็ชอบในบทสรุปของเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่หากพิจารณาตัวหนังโดยรวมตั้งแต่ต้นจนจบพร้อมทั้งสำรวจความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อหนังแล้ว ก็คงต้องบอกว่าหนังยังไปไม่ถึงในจุดที่ควรจะเป็น และถือว่าหนังอยู่ในระดับกลางๆ ครับ
ผมเคยดู The Prince & Me เมื่อนานมาแล้วครับ ยอมรับว่าจำอะไรไม่ได้เลยนอกจาก Julia Stiles ที่ผมว่าเล่นเรื่องไหนเธอก็ทำหน้าที่ได้ดีเสมอ ในขณะที่ตัวหนังนั้นรู้สึกกลางๆ ครั้นมีโอกาสคว้าเอามาดูอีกรอบก็รู้สึกโอเคกับหนังมากขึ้นหน่อยนึง แต่กระนั้นก็รู้สึกครับว่าหนังยังไม่ลงตัวคล่องคอแบบเต็มร้อย มีทั้งจุดที่เข้าท่าและจุดที่แปร่งปร่าผสมกลั้วๆ กันไป
เคยไหมครับ ยามเราดูหนังสักเรื่องแล้วก็พบว่าเรารู้สึกไม่สนุกกับการดูหนังเรื่องนั้นเลยเนื่องจากมันมีอะไรบางอย่างที่เราไม่ชอบปรากฏอยู่ในนั้น เช่น ไม่ชอบมุกตลก ไม่ชอบเนื้อเรื่อง ไม่ชอบโทน หรือไม่ชอบตัวละครบางตัวที่ยิ่งดูยิ่งรำคาญ จนแทบจะหยุดดูหนังซะเดี๋ยวนั้น แต่ครั้นพอทนดูไปเกินครึ่งเรื่อง นอกจากความไม่ชอบจะค่อยๆ หายไปแล้ว มันยังกลายเป็นว่าเราชอบครึ่งหลังของหนัง ประมาณว่ามันโดนใจเราอย่างยิ่ง
ไอ้หนุ่มหมูหิน – The Magnificent Butcher หนังมันส์ใช้ได้อีกเรื่องของเฮียหงจินเป่าครับ เรียกว่าใครที่ชอบดูหนังกังฟูย้อนยุคนี้ควรลองจัดสักครั้งครา