ออกตัวก่อนครับว่าปกติผมเป็นคนชอบดูสารคดีสำรวจถ้ำหรือสำรวจอุโมงค์ลับเป็นนิจอยู่แล้ว พวกสารคดีเมืองใต้ดินของ ThaiPBS นี่ไม่พลาดครับ ชอบจริงๆ เพราะรู้สึกว่าสถานที่เหล่านี้มันมีเสน่ห์น่าค้นหา ดูแล้วรู้สึกผสมๆ กันทั้งลึกลับและสงสัยว่าเขาทำได้ยังไง
ตอนสุดท้ายซะทีนะครับ สำหรับตำนานคริสต์มาสสยอง ที่ยิ่งทำเนื้อเรื่องก็ยิ่งออกทะเล จากตอนแรกๆ เล่าถึงซานต้าฆาตกร พอมาถึงภาคนี้ก็เปลี่ยนกลายเป็นของเล่นอันตรายที่ฆ่าคนได้ไปซะแล้ว
แม้นี่จะเป็นภาคต่อของ Silent Night, Deadly Night แต่ก็เป็นการต่อภาคแบบไม่ต่อเรื่องนะครับ กล่าวคือยืมชื่อหนังมาใช้ แต่เล่าถึงเรื่องใหม่ ตัวละครใหม่ ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับบิลลี่ ริคกี้ หรือฆาตกรในชุดซานต้าอีกต่อไป
ภาคนี้ลงวีดีโอเลยนะครับผม กับตอนต่อภาค 3 ของคริสต์มาสสยองที่ยังต่อเรื่องราวได้อีก (แบบดันทุรังอยู่เหมือนกัน)
ครับ หนังมันทำเงินทำทอง แม้จะมีคนต่อต้าน แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังมีการทำภาคต่อออกมาจนได้
สำหรับ Silent Night, Deadly Night นั้น ได้ชื่อว่าเป็นหนังสยองที่ได้รับการต่อต้านจากผู้ปกครองมากที่สุด ถึงขนาดว่าสมาคมผู้ปกครองและครูแห่งอเมริกา (Parent-Teacher Association หริอ PTA) ออกมาเดินขบวนให้ทุกโรงภาพยนตร์ถอดหนังเรื่องนี้ออกจากโรงฉายกันเลยทีเดียว
ซูซาน จอร์แดน (Shannen Doherty) พาทีมสำรวจไปตามร่องรอยพ่อของเธอที่หายตัวไประหว่างศึกษาแกรนด์ แคนยอน ซึ่งนำพวกเขาไปสู่การผจญภัยครั้งใหญ่ เมื่อที่แห่งนั้นมีร่องรอยอารยธรรมแอซแทค และอาจเป็นที่กักปีศาจในตำนานด้วย
ตอนดูตัวอย่างก็ไม่รู้สึกว่าอยากดูอะไรนักครับ แต่มาสนใจเพราะฉากเด็กหันหลังนั่นแหละ ดูแล้วหลอนดี เลยลองดูสักรอบ (แม้กระแสจะไม่ดีนักก็ตาม)
วอลเตอร์ ไพสลี่ย์ (Dick Miller) คือเด็กเสิร์ฟในคาเฟ่โบฮีเมียน คาเฟ่ที่รวบรวมศิลปินและงานศิลปะเอาไว้มากมาย เขาเองก็ใฝ่ฝันจะมีผลงานปูนปั้นมาวางโชว์ในร้านเหมือนกัน
เคาท์ อเลอคาร์ด (Lon Chaney Jr.) สุภาพบุรุษฮังกาเรียนผู้ลึกลับ เดินทางมายังอเมริกาตามคำเชิญของ แคทเธอรีน คอล์ดเวลล์ (Louise Allbritton) แต่แล้วจู่ๆ พ่อของแคทเธอรีนก็มาเสียชีวิตไปด้วยอาการหัวใจวาย ตามด้วยการตัดสินใจสายฟ้าแล่บของแคทเธอรีนที่คิดจะแต่งงานกับเคาท์ อเลอคาร์ด ทั้งๆ ที่เธอก็มีคนรักอย่าง แฟรงค์ (Robert Paige) เป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว
หมื่นทิพ's Review 