Airport ได้รับการกล่าวขวัญถึงในฐานะหนังว่าด้วยภัยพิบัติเรื่องแรกๆ ในยุคทองของหนังแนวนี้น่ะนะครับ แต่ถ้าดูกันจริงๆ แล้วโครงสร้าง 90% ของหนังจะออกแนวชีวิตมากกว่าครับ ส่วนอีก 10% ที่ว่าด้วยภัยพิบัตินั้นจะมีให้เห็นแบบชัดๆ ก็ตอนไคลแม็กซ์โน่นเลย
Airport ได้รับการกล่าวขวัญถึงในฐานะหนังว่าด้วยภัยพิบัติเรื่องแรกๆ ในยุคทองของหนังแนวนี้น่ะนะครับ แต่ถ้าดูกันจริงๆ แล้วโครงสร้าง 90% ของหนังจะออกแนวชีวิตมากกว่าครับ ส่วนอีก 10% ที่ว่าด้วยภัยพิบัตินั้นจะมีให้เห็นแบบชัดๆ ก็ตอนไคลแม็กซ์โน่นเลย
นี่คืองานกำกับของ David Fincher ชิ้นถัดมาจาก Fight Club ซึ่งเหตุผลที่เขารับทำหนังเรื่องนี้ก็เพราะตอนถ่ายทำ Fight Club นั้น เขาต้องตระเวนถ่ายตามโลเกชั่นต่างๆ ถึง 150 แห่ง ดังนั้นงานชิ้นต่อมาเขาเลยอยากทำอะไรที่มันง่ายสักหน่อย แบบถ่ายแค่ทีเดียวก็พออะไรประมาณนั้น แล้วหนังเรื่องนี้ก็เข้าแก๊บพอดี
การโกงเป็นเรื่องผิดไหม?… เส้นสายล่ะ?… การตามน้ำล่ะ?… การใช้อำนาจอำนวยความสะดวกให้พวกพ้องล่ะ?
ผมชอบคำโปรยของหนังนะครับ “เพื่อรับงานนี้เขาต้องบ้าพอ แต่เพื่ออยู่รอดในตำแหน่งนี้เขาต้องบ้ายิ่งกว่า” ก็ตรงกับเรื่องราวดีครับ
นักบินกองทัพนามว่าแดเนี่ยล แม็กคอมิค (Mel Gibson) อยู่ในสภาพใจสลายเมื่อรู้ว่าคนรักของตนประสบอุบัติเหตุจนถึงขั้นนอนโคม่า เป็นเจ้าหญิงนิทราที่ไร้สติและอาจจะเสียชีวิตในอีกไม่นาน ซึ่งพอดีว่าเพื่อนของเขากำลังจะทำการทดลองแช่แข็งมนุษย์ ทำให้แดเนี่ยลรับอาสาเป็นหนูทดลองให้ โดยเขาตกลงกับเพื่อนว่าให้แช่แข็งเขาไปเลย 1 ปี เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องทนเห็นคนรักตายจากไปตามที่แพทย์ได้วินิจฉัยไว้
หนังรวมดาวสาวสวยที่ได้รับการพูดถึงเยอะเหมือนกันครับเมื่อตอนออกฉาย ไม่ใช่เฉพาะหนุ่มๆ เท่านั้นที่พูดถึงนะครับ แม้แต่สาวๆ หลายคนก็ยังนิยมชมในความเท่ห์ของ 4 สาวควงปืนกลุ่มนี้
หนุ่มน้อยนามว่า มาร์ค อีแวนส์ (Elijah Wood) เพิ่งสูญเสียแม่ไป ขณะเดียวกันพ่อของเขาก็จะต้องไปทำธุระที่โตเกียวทำให้มาร์คถูกนำมาฝากไว้ที่บ้านลุงกับป้าซึ่งที่แห่งนั้นน่าจะทำให้มาร์ครู้สึกดีได้เพราะมีญาติๆ ที่รักเขา และยังมีเฮนรี่ (Macaulay Culkin) ลูกพี่ลูกน้องรุ่นราวคราวเดียวกันไว้เป็นเพื่อนเล่นด้วย
ถ้าลองว่ามนุษย์บนโลกยังมีตัณหา ราคะ และความต้องการเป็นตัวดำเนินหลักของชีวิตล่ะก็ ตราบนั้นก็ย่อมมีคนตกเป็นเหยื่อคนอยู่ร่ำไป เพราะคนที่ฉลาดกว่ามักรู้จักใช้ “พลังแห่งตัณหา” เพื่อล่อลวงคนมาสร้างผลประโยชน์ให้ตนเอง
จัดว่าเป็น Free Willy ฉบับแมวน้ำนำแสดงครับ แต่เรื่องนี้เห็นว่าสร้างจากเรื่องจริงว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างโทนี่ วิทนี่ย์ (Tina Majorino) กับแมวน้ำน่ารักอย่างอังเดร ที่แสนจะฉลาดเฉียว แน่นอนครับว่าเนื้อหามันพอจะเดากันได้ ว่าต้องมีเหตุการณ์ปั่นป่วนทำให้โทนี่และอังเดรต้องออกไปเสี่ยงภัยกลางทะเล แล้วก็ต้องมีคนไม่ชอบหน้าอังเดรมาคิดไม่ดีอีกด้วย
เรื่องนี้คงเขียนไม่เยอะแยะแต่ประการใดนะครับ เพราะดูเมื่อนานมาแล้ว และก็สารภาพเลยว่าไม่ได้ประทับใจอะไรมาก ทั้งๆ ที่ตัวอย่างทำให้ผมรู้สึกสนใจมากนะครับ เพราะหนังญี่ปุ่นมันมักจะมีอะไรซึ้งๆ แฝงอยู่เสมอ แล้วนี่มาทำหนังแนวภัยพิบัติ มันต้องมีการเสียสละ และความผูกพันดีๆ อย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน