สไตล์ออกจะคล้ายกับ Skyhigh หนังแอ็กชันแนวฮีโร่วัยรุ่นผจญภัยเมื่อหลายปีก่อน แต่ถ้าเทียบกันก็ถือว่าห่างชั้นกันเยอะครับ แม้ฟอร์มดาราเหมือนเรื่องนี้จะมีเกรดกว่าก็เถอะ
สไตล์ออกจะคล้ายกับ Skyhigh หนังแอ็กชันแนวฮีโร่วัยรุ่นผจญภัยเมื่อหลายปีก่อน แต่ถ้าเทียบกันก็ถือว่าห่างชั้นกันเยอะครับ แม้ฟอร์มดาราเหมือนเรื่องนี้จะมีเกรดกว่าก็เถอะ
ผมไม่หวังอะไรกับหนังเรื่องนี้แนวนี้เยอะหรอกครับ จริงๆ ไม่ได้คิดจะไปดูด้วย แต่ก็ได้รับการอนุเคราะห์จากเฮียของแฟนพาไป ผมก็โอเคครับ คิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีอะไรฮาบ้าง ตามสูตรน่ะแหละ
หนังเรื่องนี้ดูเพลินกว่าที่คิดครับ มันอาจไม่ได้สุดยอดหรือห้ามพลาดอะไร แต่จัดว่าดูสนุก ครบทั้งเบาสมองและแอ็กชันผจญภัย ถ้าไม่คิดมากก็น่าจะพอใจอยู่ไม่น้อย
Shantel VanSanten เป็นนักแสดงสาวที่เตะตาผมมากพอสมควร ตอนที่เธอแสดงเป็นแฟนของแบร์รี่ อัลเลน ในซีรี่ส์ The Flash ช่วงปี 2 น่ะครับ (โดยส่วนตัวผมเชียร์เธอให้คู่กับแบร์รี่มากกว่าไอริสอีกนะ 555)
ความสุขอย่างหนึ่งของการดูหนัง Hallmark สำหรับผมก็คือ เราจะได้พบเจอกับนางเอกที่เคยเตะตาเราจากหนังเรื่องอื่นๆ ครับ ประมาณว่าจริงๆ แล้วเธอจะดูเด่น ดูมีเสน่ห์ แต่ยังไม่มีโอกาสได้เล่นนำเป็นตัวหลักในหนังใหญ่ๆ แล้ว Hallmark นี่แหละที่มักจะตาถึงไปดึงพวกเธอมาแสดงนำ
เรื่องนี้ก็เข้าทางผมอีกแล้วครับ หนังสไตล์ย้อนยุค ถ่ายทอดแง่มุมชีวิตวัยรุ่นวัยเรียน และกลั้วอารมณ์แบบหนัง Coming of Age เข้าไปอีกหน่อย เป็นอะไรที่ผมชอบอยู่แล้ว ไหนจะชื่อผู้กำกับ Richard Linklater (ไตรภาค Before Sunrise และ Boyhood) เรื่องนี้เลยเป็นหนังน่าดูภาคบังคับสำหรับผมครับ
ดูเรื่องนีี้แล้วบังเกิด 2 ห้วงอารมณ์ขึ้นมาพร้อมๆ กันครับ ห้วงแรกคือห้วงอารมณ์ที่มีต่อหนัง กับอีกห้วงก็คือ ห้วงอารมณ์ที่มีต่อเรื่องราว ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหนัง (ไม่รู้จะถึงขั้นอินเนอร์ไหม แต่ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียง)
จู่ๆ ก็นึกขึ้นมาว่าถ้าหนังเรื่องนี้กำกับโดย Martin Scorsese หนังมันคงจะออกมาแน่นๆ แสบๆ เดินเรื่องด่วนๆ เต็มไปด้วยข้อมูลและลูกเล่นที่น่าสนใจ รสชาติก็อาจจะคล้ายกับที่หนังเป็น แต่เพิ่มดีกรีหวือหวาเข้ามาอีกหน่อยนึง
นี่ถือเป็นหนังวันคริสต์มาสที่มาพร้อมกับแง่คิดเรียบง่าย แต่น่านำไปคิดพิจารณาต่อยอด เพราะมันก็สะท้อนความจริงของสังคมมนุษย์ได้อย่างน่าสนใจ และที่สำคัญคือสารพัดดาราน้อยใหญ่ที่ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ต่างทำหน้าที่ได้อย่างน่าพอใจ
ได้ยินกิตติศัพท์ความแสบของการ์ตูนเรต R เรื่องนี้มานาน มาวันนี้สบโอกาสก็เลยจัดซะ พอดูแล้วก็เข้าใจเลยครับว่าทำไมเรตมันต้อง R ก็แต่ละมุกเล่นติดเรตใต้สะดือหรือไม่ก็ออกแนวโหดซะเต็มที่เสียขนาดนั้น