เรื่องนี้ก็มีหลายนามกรไทยครับ ชื่อดั้งเดิมสมัยออกฉายนั้นคือ ฤทธิ์มีดสั้น ลี้กิมฮวง ครั้นมายุคหลังชื่อก็มาเป็น ฤทธิ์มีดสั้น ลี้คิมฮวง ภาค 2 เพราะหนังเป็นตอนต่อจาก ศึกยุทธจักรหงส์บิน (The Sentimental Swordsman – 1977)
เรื่องนี้ก็มีหลายนามกรไทยครับ ชื่อดั้งเดิมสมัยออกฉายนั้นคือ ฤทธิ์มีดสั้น ลี้กิมฮวง ครั้นมายุคหลังชื่อก็มาเป็น ฤทธิ์มีดสั้น ลี้คิมฮวง ภาค 2 เพราะหนังเป็นตอนต่อจาก ศึกยุทธจักรหงส์บิน (The Sentimental Swordsman – 1977)
ศึกยุทธจักรหงส์บิน ก็คือ ฤทธิ์มีดสั้น ลี้คิมฮวง ครับ ได้ตี้หลุงมารับบทลี้คิมฮวง แล้วก็ได้เอ๋อตงเซินมาเป็นอาฮุย
ดุดุดุ – Magnificent Warriors หนังบู๊สายฟัดของซือเจ๊ Michelle Yeoh ที่ถือว่าดูเอามันส์เสพความบันเทิงได้แบบสบายๆ
หลี่ว่านหาว (โจวเหวินฟะ, Chow Yun-Fat) ใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกา อยู่กับลูกเมียอย่างสงบมานาน แต่แล้วเขาก็ได้ข่าวว่าพ่อของเขา (เทียนเฟิง, Tien Feng) ซึ่งเป็นหัวหน้าสมาคมหงซิ่งถูกสังหาร เขาเลยจำต้องกลับมาจัดงานศพตามหน้าที่ แต่ทีนี้คนในสมาคมก็อยากให้อาหาวขึ้นเป็นหัวหน้าแทนพ่อครับ ทว่าอาหาวนั้นเกลียดชีวิตมาเฟียที่มีแต่การฆ่าฟัน เขาเลยอยากจะกลับอเมริกาไปใช้ชีวิตสงบเหมือนเดิม
ถ้าดูจากหนังหนังแล้ว หินกินเหล็ก น่าจะเป็นหนังแอ็คชั่นน่ะนะครับ แต่เอาเข้าจริงหนังดูจะเน้นความฮาและการปรากฏตัวของเหล่านักแสดงน้อยใหญ่ที่มากันอย่างเยอะมากกว่า ในขณะที่ฉากบู๊สู้กันนั้นน่าจะมีอยู่ราวๆ 20% เท่านั้น
ผมเคยดู ฟ้าส่งฟะมาเกย รอบหนึ่งเมื่อนานมาแล้วครับ จำเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้แต่จำบางฉากได้ และที่จำได้อย่างแม่นยำคือเพลงธีมของหนังเรื่องนี้ที่จังหวะสนุกสนาน ครึกครื้น และน่ารัก เพลงธีมที่ว่านี้เป็นท่วงทำนองที่มักจะดังขึ้นในหัวผมทุกทีเวลารู้สึกสนุกเพลิดเพลินกับอะไรสักอย่าง หรือเวลาที่จะเดินทางไปไหนสักแห่ง มันปลุกอารมณ์บวกได้ดีครับ
Cold War ภาคแรก ถือเป็นหนังจีนฮ่องกงแนวเฉือนคมที่ทำออกมาได้เข้มข้นครับ แม้จะไม่ถึงขั้น Infernal Affair แต่ก็ถือว่าทำได้สนุกแบบที่พบได้ไม่บ่อยสำหรับหนังฮ่องกงและหนังจีนยุคหลังๆ (ที่ดูจะเน้น CG ซะจนล้น)
ปีนี้เป็นปีแห่งหนังภาคต่อข้ามทศวรรษครับ ตอนแรกนึกว่า Zoolander กับ My Sassy Girl มีภาคต่อที่ห่างจากภาคที่แล้ว 15 ปี ผมว่าก็นานแล้วนะ แต่เจอเรื่องนี้แซงขาดไปเลยครับ
ว่าตามจริงโครงเรื่องของ ตี๋เหรินเจี๋ยไขคดีศีรษะรากษส ถือว่าเข้าท่าไม่น้อย
ยังมีตี๋เหรินเจี๋ยอีกหลายเวอร์ชั่นให้พิชิตครับ คราวนี้ไล่ดูฉบับที่ Luo Li Qun แสดงเป็นเหล่าตี๋ครับ