เหตุผลที่อยากดูหนังเรื่องนี้ไม่ใช่อะไรหรอกครับ คือเห็นตัวอย่างแล้วพบว่าหนังมันไม่เน้น Effect ไม่เน้น CG แบบที่หนังสมัยนี้ชอบทำกันออกมา แต่บู๊กันด้วยหมัดกับเท้าแล้วก็ใช้สลิง ใช้ระเบิดตูมตามตามสูตรหนังกำลังภายในสมัยก่อน ก็เลยรู้สึกสนใจขึ้นมา
เหตุผลที่อยากดูหนังเรื่องนี้ไม่ใช่อะไรหรอกครับ คือเห็นตัวอย่างแล้วพบว่าหนังมันไม่เน้น Effect ไม่เน้น CG แบบที่หนังสมัยนี้ชอบทำกันออกมา แต่บู๊กันด้วยหมัดกับเท้าแล้วก็ใช้สลิง ใช้ระเบิดตูมตามตามสูตรหนังกำลังภายในสมัยก่อน ก็เลยรู้สึกสนใจขึ้นมา
ไซอิ๋วภาคนี้นี่กลายเป็นภาคที่ผมชอบที่สุดในบรรดา 3 ภาคที่สร้างกันมาครับ ยอมรับว่าคาดไม่ถึงเหมือนกัน ตอนแรกผมคิดว่าตัวเองน่าจะเฉยๆ นะ เพราะจำได้เลยว่าตอนดูไซอิ๋วฉบับเก่าๆ แล้วพอถึงตอนเมืองแม่ม่ายทีไร ผมจะรู้สึกเฉยๆ กับตอนนี้ทุกที มันรู้สึกเหมือนเป็นตอนเบาๆ+เอาฮาน่ะครับ ไม่ได้มีปีศาจให้ปราบ พล็อตไม่ได้ซับซ้อน ปมไม่ได้มากมาย สิ่งที่พวกพระถังต้องรับมือก็คือเหล่าสตรีในเมืองลับแลที่มากกฎเยอะกติกา แต่ละคนนี่ออกแนวหญิงเยอะจนบางทีก็อดรำคาญไม่ได้
จุดหนึ่งที่จัดว่าน่าเสียดายในภาคนี้คือการที่ Donnie Yen ไม่กลับมารับบทซุนหงอคง ซึ่งคนที่มารับบทแทนก็คือ กั๊วฟู่เฉิง (ที่ภาคก่อนเล่นเป็นปีศาจกระทิง) ที่แม้ว่าพี่แกจะแสดงได้ดีอยู่ แต่ในแง่แอ็กชันลีลากังฟูแล้ว ยังไงป๋า Donnie ก็พริ้วกว่าครับ
ปัญหาประการหนึ่งของหนังจีนยุค CG คือ ถ้าเรื่องไหนเน้น CG มากๆ ล่ะก็ เนื้อหาและความแน่นของเรื่องมักจะโดนลดบทบาทลงครับ ส่วนจะโดนลดมากจนไม่เหลือเลยหรือยังพอกล้อมแกล้มดูสนุกอยู่บ้าง ก็ต้องแล้วแต่กรณี
เรื่องนี้ดูไปหลายรอบแล้วเหมือนกันครับ ประมาณว่าพอมีอารมณ์อยากดูหนังแนวภัยพิบัติทำลายโลกเมื่อไร ก็ต้องหยิบเรื่องนี้มาดูด้วยทุกทีไป
ภาคก่อนโกยเงินทั่วโลกเกือบพันล้านครับ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะต้องมีการทำภาคต่อออกมา ซึ่งภาคนี้ก็ถือว่าทำเงินไปน่าพอใจอีกเช่นกัน คือ $796 ล้าน แสดงว่ามีคนรอให้การต้อนรับอยู่เยอะทีเดียว
ผมรู้จัก Dora ก็เพราะลูกสาวชอบดูครับ เรียกได้ว่าชอบมากเลยก็ว่าได้ นั่งดูต่อๆ กันได้หลายตอนโดยไม่เบื่อ ในขณะที่ผู้ใหญ่อย่างเรานั้นดูแล้วก็อาจจะไม่ได้ชื่นชอบอะไรมาก เนื้อเรื่องดูง่ายๆ จนหลายทีก็ง่ายเกินไป และเรื่องราวแต่ละตอนก็มีสูตรจนเหมือนดูแบบวนลูปอยู่ในที แต่มันก็มีความสุขตรงที่ได้เห็นลูกของเรามีความสุขในการดูนั่นแหละครับ
ดูครบแล้วครับสำหรับ 6 หนังลงน้ำในช่วงปี 1989 – 1990 ที่ขยันทำแนวนี้กันออกมาเหลือเกิน ซึ่งเกือบทั้งหมดก็ไปไม่ถึงดวงดาว มีแค่ The Abyss เรื่องเดียว ที่ถือว่าถึงรสถึงชาติ (แต่หากว่ากันในแง่รายได้แล้ว แต่ละเรื่องต่างก็ไม่ทำเงินเท่าที่ควร จนทำให้วงการหนังเข็ดขยาดทำหนังลงน้ำกันไปเลยครับ)
หลังจากห่างเหินการดูหนังแนวสัตว์โลกน่ารักไปพักหนึ่ง พอกลับมาได้ดูอีกครั้งก็เกาหัวแกรกๆ เลยครับ คือไม่นึกว่ามันจะสาละวันเตี้ยลงได้ขนาดนี้
“ดูธรรมดาอย่างคาดไม่ถึง” คือความรู้สึกที่ผมมีต่อหนังเรื่องนี้ครับ