คำนิยามที่เหมาะที่สุดสำหรับหนังเรื่องนี้ก็คงเป็น “เอ็กซ์เมนอัพยา” น่ะครับ เพราะในเรื่องเราจะได้เจอคนที่มีพลังพิเศษแตกต่างกันไป แต่ที่มาของพลังนั้นมันคือยาครับ ประมาณว่าเสพแล้วพลังจะบังเกิดอะไรประมาณนั้น
คำนิยามที่เหมาะที่สุดสำหรับหนังเรื่องนี้ก็คงเป็น “เอ็กซ์เมนอัพยา” น่ะครับ เพราะในเรื่องเราจะได้เจอคนที่มีพลังพิเศษแตกต่างกันไป แต่ที่มาของพลังนั้นมันคือยาครับ ประมาณว่าเสพแล้วพลังจะบังเกิดอะไรประมาณนั้น
ภาคแรกผมชอบครับ มาภาคสองก็ทำเอาผมเป๋ไปเหมือนกัน เพราะมันคือการเอาภาคแรกมาทำใหม่ (แต่ความสนุกหล่นหายไปเยอะ) ดังนั้นภาค 3 ผมเลยไม่กล้าคาดหวังใดๆ
ผมพอจะคาดเดาได้นะครับว่าหนังจะออกมาอีท่าไหน คือความคาดหวังน่ะไม่มีอยู่แล้ว กะดูเอาฮาอย่างเดียว แต่ครั้นพอได้ดูก็ยอมรับเลยครับว่าอดจะแอบเฮิร์ทไม่ได้ที่หนังเอาชื่อ Deep Blue Sea มาใช้
ก่อนดูผมก็คิดน่ะนะครับว่าหนังจะออกมาเวิร์กไหม เพราะโดยแนวทางแล้วมันคือการเอา The Towering Inferno มาทำใหม่ และครั้นพอได้ดูก็พบว่าหนังทำได้สนุก ตื่นเต้น และน่าติดตามไม่ใช่น้อย
ถือเป็นหนังรวมมิตรครับ เพราะรวมเอาแนวภัยพิบัติกับแนวสัตว์โลกน่ารักเข้าด้วยกัน ได้ออกมาเป็นหนังระทึกขวัญที่ดูแล้วจัดว่าตื่นเต้นไม่เลวทีเดียว
เรื่องนี้สำหรับผมแล้ว ถือว่าเป็นหนังของ John Woo ที่ผมชอบน้อยที่สุดครับ
ถ้าว่ากันตามลำดับแล้ว นี่คือ Bloodfist ภาคที่ 9 ครับ แต่ก็อย่างที่ทราบดีคือแต่ละภาคมันไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว แต่ละภาคก็มีเนื้อเรื่องของตัวเอง และสำหรับภาคนี้ก็ถือเป็นภาคแรกและภาคเดียวที่พี่ Don ‘The Dragon’ Wilson ไม่ได้มาแสดง
ริค โคแวน (Don ‘The Dragon’ Wilson) อดีตซีไอเอที่หันหลังให้กับชีวิตผาดโผนแล้วผันตัวมาปเนครูอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เขาพยายามเลี้ยงลูกชาย (John Patrick White) ให้ห่างไกลจากโลกแห่งความรุนแรงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
Don ‘The Dragon’ Wilson รับบท จิม ทรูเดลล์ ชายหนุ่มที่โดนใส่ความในข้อหาฆาตกรรม เขาเลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหนีเอาชีวิตรอด และหาทางสืบความจริงว่าใครกันแน่ที่ใส่ร้ายเขา และพวกมันต้องการอะไร
ผมดู Rambo ภาคนี้ในวันที่ได้ข่าวว่า Rambo อาจมีภาค 6 ตามออกมาครับ ประมาณว่าพี่ Sylvester Stallone ออกมาแพลมๆ ว่าเขาอาจจะทำ Rambo 6 ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะภาคนี้มันยังไม่เข้าเป้าตามที่พี่เขาต้องการหรือเปล่า เพราะคำชมก็ไม่มาก รายได้ก็กลบทุนแบบหมิ่นๆ