เรื่องราวต่อเนื่องจากตอนจบภาคก่อน เมื่อหวงเฟยหง (เจ้าเหวินจั๋ว) ชนะศึกเชิดสิงโตแต่ไม่ยอมรับป้ายทองเพื่อเป็นการเตือนสติทางการว่ายามที่บ้านเมืองกำลังปั่นป่วนนี้สมควรกระทำสิ่งอื่นมากกว่าการจัดงานแข่งเชิดสิงโต
เรื่องราวต่อเนื่องจากตอนจบภาคก่อน เมื่อหวงเฟยหง (เจ้าเหวินจั๋ว) ชนะศึกเชิดสิงโตแต่ไม่ยอมรับป้ายทองเพื่อเป็นการเตือนสติทางการว่ายามที่บ้านเมืองกำลังปั่นป่วนนี้สมควรกระทำสิ่งอื่นมากกว่าการจัดงานแข่งเชิดสิงโต
คราวนี้เรื่องไปเกิดที่กรุงปักกิ่งครับ หวงเฟยหง (หลี่เหลียนเจี๋ย) เหลียงควน (ม่อเส้าชง) และน้าสิบสาม (กวนจื่อหลืน) เดินทางไปเยี่ยมบิดาของอาจารย์หวง นามว่าหวงฉีอิง (Shun Lau) เพื่อแจ้งให้บิดาทราบว่าเขาและน้าสิบสามนั้น มีใจให้กัน แต่ก็เข้าอีหรอบเดิมครับ ที่เมื่ออาจารย์หวงแวะไปที่ไหน ที่นั่นก็จะมีเหตุความไม่สงบให้ต้องแก้ไขเสมอ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่าบ้านเรา (โดยเฉพาะระยะหลังๆ นี้) ควรเอาหวงเฟยหงภาคนี้มาดูกันเยอะๆครับ เพราะหนังมันสะท้อนอะไรหลายอย่าง ชวนให้ฉุกคิดในหลายประเด็น
ภาคแรกของหนังกังฟูระดับตำนานครับ
หนังเรื่องนี้ขอรีวิวเร็ว มาเร็ว เคลมเร็ว เพราะหนังมันว่าด้วยความเร็ว!
เชม (Keenen Ivory Wayans) อดีตตำรวจที่ได้ผันตัวเองมาเป็นนักสืบเอกชน รับงานอิสระที่เสี่ยงตายสารพัด โดยมี พีชเชส (Jada Pinkett Smith) สาวจอมห้าว ระห่ำ และเม้าท์ตลาดแตกเป็นคู่หู
ถือเป็นไอเดียที่เข้าท่าครับสำหรับหนังเรื่องนี้ ที่จับเอาสูตรหนังคาวบอยมาเล่นแบบพลิกแพลงแบบที่ไม่ค่อยมีใครทำ
เฮียแบรดด็อกแกมีอดีตเยอะจริงๆ ครับ มาภาคนี้หนังได้เปิดเผย (หรือไม่ก็แต่งขึ้นเพื่อให้มีเรื่อง) ว่า ผูู้พันเจมส์ แบรดด็อก (Chuck Norris) ได้พบรักกับสาวเวียดนามคนหนึ่ง และมีลูกกับเธอด้วย
ภาคนี้เป็นภาคบีกินนิ่งนะครับ ย้อนไปเล่าสมัยที่ ผูู้พันเจมส์ แบรดด็อก (Chuck Norris) โดนจับไปค่ายกักกันในช่วงสงครามเวียดนาม หนังก็แสดงให้เห็นถึงความโหดในค่ายกักกัน ภายใต้การควบคุมของผู้พันหยิน (Soon-Tek Oh) และเมื่อเลือดของแบรดด็อกเดือดถึงขีดสุด เขาก็ตัดสินใจแหกค่ายนรกแห่งนี้
ผูู้พันเจมส์ แบรดด็อก (Chuck Norris) อดีตจี.ไอ. ที่ยังจดจำคืนอันเลวร้ายสมัยไปรบในสงครามเวียดนามได้ และเขาก็ได้รู้มาว่ายังมีทหารอเมริกันอีกมากติดอยู่ในค่ายกักกัน เขาจึงตัดสินใจหาลู่ทางเข้าไปช่วยทหาร อันนำมาสู่การรบเลือดเดือดตามสไตล์ Chuck Norris