ปีที่ผ่านมามีหนังว่าด้วยโลกแตกแบบเน้นฮาและบ้าสุดๆ อยู่ 3 เรื่องครับ ได้แก่ This is The End และ Rapture-Palooza 2 เรื่องนี้มาจากฝั่งอเมริกา และอีกเรื่องคือ The World’s End จากฝั่งอังกฤษ
ปีที่ผ่านมามีหนังว่าด้วยโลกแตกแบบเน้นฮาและบ้าสุดๆ อยู่ 3 เรื่องครับ ได้แก่ This is The End และ Rapture-Palooza 2 เรื่องนี้มาจากฝั่งอเมริกา และอีกเรื่องคือ The World’s End จากฝั่งอังกฤษ
หลังจากเฉินเจียลั่ว (เจิ้นเส้าชิว) ประมุขพรรคดอกไม้แดงรับ ปึงซีเง็ก หรือ ฟงไสหยก (หลี่เหลี่ยนเจี๋ย) เป็นลูกบุญธรรมแล้วก็พาเข้าสู่พรรค แต่เมื่อได้เข้าพรรคแล้ว เขากลับพบว่าแม้แต่ในพรรคเองก็เต็มไปด้วยความขัดแย้ง มีคลื่นทั้งใต้น้ำและบนน้ำ จนในที่สุดเขาจึงต้องลงมือพิทักษ์ความถูกต้องบนแนวทางของตนเอง
เป็นเรื่องราวของ ฟงไสหยก หรือถ้าออกเสียงแต้จิ๋วก็จะเป็น ปึงซีเง็ก น่ะนะครับ โดย พี่หลี่เหลียนเจี๋ย มารับบทนี้ซึ่งก็มีทำออกมา 2 ภาคด้วยกัน
“ความหวัง คือสิ่งเดียวที่แข็งแกร่งกว่าความกลัว”
ผมล่ะอยากรู้เป็นหนักหนาว่าทำไมหนังเรื่องนี้ปีนกระได Box Office ฮ่องกงแล้วทำเงินขึ้นอันดับหนึ่งประจำปีที่ออกฉายได้ ทั้งๆ ที่ดาราหน้าก็ไม่คุ้น (ในขณะนั้น) แต่พอดูแล้วบางอ้อก็มาจ่อตรงหน้าพอดี
ตอนแรกหมายมั่นว่าจะเข้าไปพิสูจน์มันในโรงซะเลย เพราะภาคแรกนี่ผมชอบนะครับ แม้พล็อตจะไม่มี แต่แอ็กชันมันไม่ผิดหวัง ตีกันมันส์ใช้ได้ ไอ้เรื่องฮาก็เรื่อยๆ ผมเลยสนุกไปตลอดครับ พอภาคสองจะสร้างก็รอตามระเบียบ ด้วยความหวังว่ามันจะสนุกไม่แพ้ตอนแรก
ย้อนมาพูดถึงภาคแรกหน่อยดีกว่า เคยพูดถึงภาคสองไว้แล้ว และก็ไม่ค่อยประทับใจนัก แต่ผมชอบภาคแรกนะครับ เลยขอยกมาพูดถึงหน่อยแล้วกัน
เรื่องนี้เป็นอะไรที่เสียดายมาก เพราะจริงๆ มันน่าสนใจนะครับ พล็อตมันอาจไม่ได้ใหม่แต่รายละเอียดและองค์ประกอบบางอย่างมันน่าสนใจดี จนผมต้องลงเอยด้วยประโยคเดิมๆ อย่าง “ถ้าทำออกมาดีๆ และเล่าด้วยจังหวะที่เหมาะล่ะก็ มันจะเจ๋งมาก”
ครั้งล่าสุดที่คอหนังได้พบกับ ไซมอน เทมปลาร์ จอมโจรสิงห์สำอางค์ฉายา “เดอะ เซนต์” ก็คือปี 1997 ที่ Val Kilmer นำแสดงน่ะครับ… นับไปนับมาเวลาก็ผ่านไป 20 ปีแล้วนะเนี่ย นานเอาเรื่องทีเดียว
หนังแอ็กชัน+ตลกผสมด้วยความรักกุ๊กกิ๊กของ 3 นักบู๊แห่งฮ่องกงครับ เรื่องมิตรภาพของ 3 หนุ่มที่ประกอบด้วย แจ็คกี้ (เฉินหลง) คือทนายมือดีล ลุค (หงจินเป่า) นักค้าของเถื่อนจอมกะล่อน และทิโมธี (หยวนเปียว) หัวขโมยมือเซียน