หลักๆ นี่ดูเพราะพี่ Nicolas Cage เลยครับ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่คาดหวังมาก ครั้นพอได้ดูก็รู้สึกว่าหนังพอได้ครับ ดูเพลินๆ บันเทิงแบบไม่เลว
หลักๆ นี่ดูเพราะพี่ Nicolas Cage เลยครับ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่คาดหวังมาก ครั้นพอได้ดูก็รู้สึกว่าหนังพอได้ครับ ดูเพลินๆ บันเทิงแบบไม่เลว
The Many Faces of Dracula สารคดีที่บอกเล่าถึงเรื่องของแดร็กคูล่าบนจอภาพยนตร์ครับ ไล่ตั้งแต่ที่มาต้นตำรับสมัยนิยายจากปลายปากกาของ Bram Stoker ที่เป็นผลงานโด่งดังระดับตำนาน แล้วจากนั้นก็มีคนเอามาทำเป็นหนัง เริ่มจากเรื่อง Nosferatu ที่ถือว่าเป็นแดร็กคูล่าแบบไม่เป็นทางการ ก่อนจะมีท่านแดร็กแบบเป็นทางการในปี 1931 ที่สร้างชื่ออย่างมหาศาลให้ Bela Lugosi
ในที่สุดครับท่านทั้งหลาย ในที่สุด หลังจากรอคอยมาเป็นปีๆ ในที่สุดผมก็ได้ครอบครองหนังจีนชุดเรื่องนี้ซะที และอยากจะบอกว่านี่เป็นหนังจีนชุดที่ผมชอบสุดๆ รอเก็บสุดๆ ตอนแรกพอ Movie Home เขาทำภาคแรกออกมาผมก็ดีใจเลยครับ เตรียมรอซื้อภาคสองเต็มที่ เพราะคิดว่ามันน่าจะออกใกล้ๆ กัน แต่ปรากฎว่ารอราวๆ ปีกว่าเลยครับ รอจนเหงือกแห้ง จนได้ข่าวลือว่าเขาจะไม่ผลิตภาคสองออกมา เนื่องจากภาคแรกยอดขายไม่สวยงามเท่าไหร่ ผมก็นั่งเซ็งเลยครับ อะไรฟะ ทั้งๆ ที่ภาคสองนี่จัดได้ว่าอภิมหามันส์ยิ่งกว่าตอนแรกด้วยซ้ำ
เรื่องนี้ผมชอบตั้งแต่ตอนที่ฉายทางช่อง 3 แล้วล่ะครับ เพราะหนังจีนชุดที่เกี่ยวกับปราบผีนั้นไม่ค่อยทำกันออกมา
Day Shift เป็นหนังดูง่าย เล่าง่าย เขียนง่ายครับ สรุปสั้นๆ ว่าเป็นหนังแอ็กชันล่าแวมไพร์ที่ดูได้เพลินๆ เอามันส์เป็นหลัก จัดว่าโอเคตามมาตรฐานของหนัง Netflix น่ะครับ
ในปีที่ 4 ของ Angel ท่านจะได้พบกับความเข้มข้นแบบสุดๆ ของเรื่องราวครับ เพราะปมทั้งหลายที่พี่ Joss Whedon แกอุตส่าห์ปูไว้ตั้งแต่ปีก่อนๆ จะแปรเปลี่ยนเป็นความมันส์แบบมหึมาในปีนี้นี่แหละครับ
มาต่อกันครับ เรื่องราวของแองเจิ้ล (David Boreanaz) แวมไพร์ผู้มีวิญญาณและคอยปกป้องชาวเมืองแอล.เอ ให้พ้นจากปีศาจชั่วร้ายทั้งหลาย ซึ่งซีรี่ส์นี่ก็ดำเนินมาถึงปีที่สามแล้วนะครับ ซึ่งปีนี้นอกจากจะมีการต่อสู้กับปีศาจทั่วๆ ไปแล้ว ด้านเนื้อหาหลักก็เข้มข้นมากเลยนะครับ
ปีที่ 2 ของซีรี่ส์ที่แตกแขนงมาจาก Buffy the Vampire Slayer กับเรื่องราวของแวมไพร์ผู้มีวิญญาณ นามว่าแองเจิ้ล (David Boreanaz) ซึ่งได้ตั้งบริษัทนักสืบ แองเจิ้ล อินเวสติเกชั่น เพื่อคอยรับทำคดีคนหายและรับหน้าที่ต่อกรกับปีศาจทุกชนิด (ซึ่งไม่ได้มีแต่แวมไพร์ครับ แต่จะมีตัวบ้าอะไรโผล่มาอีกเพียบ)
โรงเรียนกำจัดผี หรือ Ghost Busting นั้นถือว่าประสบความสำเร็จครับ ในบ้านเราก็จัดว่าดังพอตัว จนทีมงานจากหนังเรื่องนั้นยกกันมาทำหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะผู้กำกับ Sze Yu Lau, ได้พี่หวังจิ้งมาเขียนบทให้ และนำแสดงโดย เฉินไป่เสียน, ชิวซู่เจิน, จงฟะ, ชาร์ลี เฉา เรียกว่ายกพลจากเรื่องนั้นกันมาเลยล่ะ
ยุคประมาณปี พ.ศ. 2530 กว่าๆ ช่วงนั้นถือเป็นยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูของหนังจีนฮ่องกงเลยครับ มีมาให้ชมเยอะมาก และแต่ละเรื่องก็จะมีความสนุกในแบบของตัวเอง ซึ่งโดยส่วนตัวผมขอจำแนกหนังจีนในสมัยนั้นออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ครับ ประเภทแรกคือออกแนวจริงจัง อย่างหนังดราม่าหนักๆ, แอ็กชันแน่นๆ , กำลังภายในเน้นๆ หรือหนังผีสยองแบบดุๆ อันนี้ก็ถือเป็นประเภทแรก