นี่ก็เป็นภาคที่ 3 ของหนังชุด The Mummy’s Hand นะครับ เรื่องราวบทต่อมาของมัมมี่คาร์ริส (Lon Chaney Jr.) ที่ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นมาอีก ด้วยฝีมือของยูซุฟ เบย์ (John Carradine) ทายาทคนต่อมาของเอนโดเฮป (George Zucco) วายร้ายจากภาคแรกที่ยังไม่ยอมตายเสียที
นี่ก็เป็นภาคที่ 3 ของหนังชุด The Mummy’s Hand นะครับ เรื่องราวบทต่อมาของมัมมี่คาร์ริส (Lon Chaney Jr.) ที่ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นมาอีก ด้วยฝีมือของยูซุฟ เบย์ (John Carradine) ทายาทคนต่อมาของเอนโดเฮป (George Zucco) วายร้ายจากภาคแรกที่ยังไม่ยอมตายเสียที
หนังภาคต่อจาก The Mummy’s Hand ครับ โดยเนื้อเรื่องภาคนี้เป็นเหตุการณ์หลังจากภาคแรก 30 ปี กล่าวคือปีในหนังนั้นคือปี 1970 ครับ แล้วก็ได้ดาราหลักๆ กลับมา
หลายคนนับว่านี่เป็นภาคต่อแบบกลายๆ ของ The Mummy ฉบับปี 1932 ที่ Boris Karloff แสดงไว้ แต่จริงๆ แล้วหนังไม่มีอะไรเกี่ยวกันในทางเนื้อเรื่องครับ เว้นแต่ว่ามอนสเตอร์ตัวร้ายคือมัมมี่เหมือนกัน และมีความร้ายกาจอีกทั้งแผนการที่น่าสะพรึง เต็มไปด้วยความมรณะเหมือนกัน
มอนสเตอร์ในตำนานอีกหนึ่งตนที่ดังไม่แพ้ Dracula, Frankenstein และ The Wolf Man ซึ่งฉบับนี้ก็ได้ Boris Karloff ผู้เคยสวมวิญญาณอสุรกายของแฟรงเกนสไตน์จนโด่งดังมาแล้วในปี 1931 โดยในเรื่องนี้เขามารับบทเป็น อิมโฮเทป นักบวชในยุคอียิปต์โบราณที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง และเขาต้องการเสาะหาหลุมศพของอนัคซูนามุน คนรักของเขา เพื่อจะได้ปลุกชีพเธอขึ้นมาครองคู่และอยู่เป็นอมตะตลอดไป
หนังเรื่องนี้ให้อารมณ์เหมือนนิยายที่ค่อยๆ เปิดอ่านไปทีละหน้า ซึ่งก็ไม่แปลกครับ เพราะหนังสร้างจากนิยายขายดีของ Peter Straub และตัวนิยายเองก็ขายดีติดอันดับอยู่เหมือนกัน
นี่ก็เป็นหนังสยองอีกเรื่องที่ผมคิดว่า “มันน่าจะเข้าท่า” เนื่องมาจากชื่อดารานำอีกนั่นแหละครับ พระเอกคือ Richard Crenna แห่งหนัง Rambo 3 ภาค ส่วนนางเอกคือ Joanna Pettet ที่เคยเล่นเป็นลูกสาว เจมส์ บอนด์ กับ มาตาฮารี่ใน Casino Royale (ฉบับล้อเลียนนะครับ ไม่ใช่ฉบับที่พี่ Daniel Craig แสดง) ชื่อชั้นดาราก็มาหนึ่งแล้วนะครับ
สำหรับผม คนทำหนังที่ชื่อ Joss Whedon ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ
จริงๆ หนังเรื่องนี้คุ้นหูคุ้นตาผมมานานมากแล้วนะครับ เพราะเห็นวางขายอยู่ในร้าน Lion Records มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ซื้อเพราะไม่แน่ใจว่าหนังมันจะเข้าท่าหรือเปล่า เนื่องจากค่ายนี้ เอาหนังสยองเก่าๆ มาทำเยอะครับ ที่ดีก็มี แต่ที่ไม่ดีนี่ออกจะเยอะกว่า เลยพยายามหลีกเลี่ยงการเสี่ยงมาตลอด
สำหรับ The Twilight Zone คอหนังแนวสยองขวัญคงรู้จักดีล่ะครับ เวอร์ชั่นล่าสุดปี 2002 เพิ่งเอามาฉายในบ้านเราเมื่อปีที่แล้วเอง (2549) ก็มีคนติดกันงอมแงม ผมก็ชอบนะ แต่เอาเข้าจริงๆ รู้สึกว่ามันยังไม่เต็มที่ มาเหมือนเวอร์ชั่นเก่าแก่ที่ดูสนุกกว่า พวกเวอร์ชั่นต้นฉบับน่ะครับ บรรยากาศอารมณ์มันเด็ดขาดดี แต่ของใหม่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ ก็ดูได้เรื่อยๆ
อีกครั้งที่พี่ King จับปากกาเล่าเรื่องผีดูดเลือด