Quentin Tarantino สร้าง Django Unchained ออกมาได้แสบแบบนิ่มๆ ครับ
Quentin Tarantino สร้าง Django Unchained ออกมาได้แสบแบบนิ่มๆ ครับ
ภาคนี้จับเอาเครื่องบินคองคอร์ดที่กำลังโด่งดังในสมัยนั้นมาเป็นพาหนะเกิดเหตุครับ โดยพล็อตจริงๆ ไม่เชิงเป็นหนังภัยพิบัติ แต่เป็นแนวแอ็กชันระทึกขวัญมากกว่า
ภาคที่ 3 ของหนังชุด Airport นะครับ คราวนี้เหตุมาเกิดบนเครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งของมหาเศรษฐีฟิลลิป สตีเวนส์ (James Stewart) ที่มีทั้งผู้โดยสารและงานศิลปะล้ำค่า แล้วทีนี้ก็มีโจร 2 คนวางแผนปลอมตัวขึ้นไปบนเครื่อง ก่อนจะปล่อยแก๊สสลบให้คนทั้งเครื่องหลับ จากนั้นก็กะจะจอดเครื่องทิ้งไว้บนเกาะรกร้าง ก่อนจะขนงานศิลปะออกจากเครื่องและหลบหนีไป
หลังจากความสำเร็จระดับ $100 ล้านในภาคแรก (ถ้าตีเป็นค่าตั๋วและค่าเงินปัจจุบัน จะมูลค่าเท่ากับ $530 ล้านโดยประมาณ) และช่วงยุค 70 นั้นหนังแนวภัยพิบัติกำลังมาแรง ทำให้การทำภาคต่อเป็นอะไรที่ไม่ต้องคิดเลยครับ ต้องทำออกมาแน่นอน
Airport ได้รับการกล่าวขวัญถึงในฐานะหนังว่าด้วยภัยพิบัติเรื่องแรกๆ ในยุคทองของหนังแนวนี้น่ะนะครับ แต่ถ้าดูกันจริงๆ แล้วโครงสร้าง 90% ของหนังจะออกแนวชีวิตมากกว่าครับ ส่วนอีก 10% ที่ว่าด้วยภัยพิบัตินั้นจะมีให้เห็นแบบชัดๆ ก็ตอนไคลแม็กซ์โน่นเลย
การโกงเป็นเรื่องผิดไหม?… เส้นสายล่ะ?… การตามน้ำล่ะ?… การใช้อำนาจอำนวยความสะดวกให้พวกพ้องล่ะ?
หนังเก่าเล่ายี่ห้ออีกเรื่อง ไม่รู้ทำไมเวลาผมนึกถึงนึกเรื่องนี้ผมมักนึกไปถึงหนังเรื่อง The Guardian ทุกที คงเพราะสไตล์มันคล้ายกันน่ะครับ เนื้อหามันว่าด้วยผู้หญิงลึกลับที่มายังครอบครัวเล็กๆ เพื่อทำให้เกิดเรื่องสยองขวัญ
นักบินกองทัพนามว่าแดเนี่ยล แม็กคอมิค (Mel Gibson) อยู่ในสภาพใจสลายเมื่อรู้ว่าคนรักของตนประสบอุบัติเหตุจนถึงขั้นนอนโคม่า เป็นเจ้าหญิงนิทราที่ไร้สติและอาจจะเสียชีวิตในอีกไม่นาน ซึ่งพอดีว่าเพื่อนของเขากำลังจะทำการทดลองแช่แข็งมนุษย์ ทำให้แดเนี่ยลรับอาสาเป็นหนูทดลองให้ โดยเขาตกลงกับเพื่อนว่าให้แช่แข็งเขาไปเลย 1 ปี เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องทนเห็นคนรักตายจากไปตามที่แพทย์ได้วินิจฉัยไว้
ถือเป็นหนังที่ผมประสงค์รีวิวสั้นๆ แบบเข้าเป้าเลยนะครับ ว่าถ้าคุณชอบหนังเพลง, ชอบหนังตลกผสมโรแมนติก, ชอบดาราอย่าง Meryl Streep, Pierce Brosnan และ Amanda Seyfried หรือชอบหนังที่มีบรรยากาศงามๆ ถ่ายภาพสวยๆ ของริมทะเลที่มีน้ำใสกระจ่าง
หนังตลกบนสนามอเมริกันฟุตบอลครับ เรื่องของทีมฟุตบอลที่แม้จะได้ชื่อว่าเป็นทีมรวมนักเล่นระดับสำรอง แต่พวกเขาก็สู้สุดใจทำสุดชีวิตเพื่อชิงชัยมา โดยมี เชน ฟัลโก (Keanu Reeves) เป็นผู้นำ และจิมมี่ แม็กกินตี้ (Gene Hackman) เป็นโค้ช