แม้ชื่อจะขึ้นว่าเป็นหนังก็อตซิลล่า แต่ตัวเอกของจริงกลับไม่ใช่พี่เบิ้มร่างยักษ์เหมือนคราวก่อนๆ ทว่าคือเหล่ามนุษย์ปุถุชนคนญี่ปุ่นต่างหาก
แม้ชื่อจะขึ้นว่าเป็นหนังก็อตซิลล่า แต่ตัวเอกของจริงกลับไม่ใช่พี่เบิ้มร่างยักษ์เหมือนคราวก่อนๆ ทว่าคือเหล่ามนุษย์ปุถุชนคนญี่ปุ่นต่างหาก
เปิดมาหนังไม่อ้อมค้อมเลยครับ ฉายให้เราเห็นว่ามีฉลามตัวหนึ่งงาบยานต่างดาวเข้าไป ส่งผลให้ตัวมันกลายร่างเป็นฉลามยนต์ที่แข็งแกร่ง มันสามารถว่ายน้ำและว่ายทะลุพื้นดินไปงาบคนในเมืองได้ กองทัพเลยต้องงัดทุกกลยุทธ์มาปราบมัน
จรวดที่ขนนาโนโรบอทเกิดร่วงลงมาที่สวนสัตว์แห่งหนึ่งครับ แล้วก็มีจระเข้ได้รับนาโนโรบอทนั่นเข้าร่าง มันเลยกลายเป็นโรโบคร็อก จระเข้หุ่นยนต์ที่กัดทุกสิ่งไม่เลือกหน้า และบ้าคลั่งแบบสุดๆ แล้วก็จะต้องมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามหยุดมันครับ
ผมนั้นเคยดู Moby Dick ฉบับนี้ 2 หนครับ หนแรกก็คือดูตามปกติ ส่วนหน 2 ก็คือดูก่อนจะมาเขียนเรื่องนี้ ซึ่งในความรู้สึกผมนั้น ยอมรับว่าหนังสร้างได้ดี โดยเฉพาะถ้ามองว่าอายุของหนังเกือบจะ 70 ปีแล้ว แต่ถ้าถามว่าชอบไหมก็ต้องตอบตามตรงว่าไม่ถึงขั้นชอบอะไรมาก
ภาคล่าสุดจนถึงตอนนี้น่ะนะครับ คราวนี้เหตุไปเกิดที่บาร์เซโลน่า เจ้าพวกแกรบบอยด์ไปโผล่ที่นั่น ส่งผลให้แจส เวลเกอร์ (Caroline Langrishe) สั่งให้จิมมี่ (Jon Heder) เพื่อนร่วมงานของเธอไปตามตัวเบิร์ต กัมเมอร์ (Michael Gross) มาเพื่่อช่วยกันสยบเหล่าแกรบบอยด์อีกครั้ง
คราวนี้เบิร์ต กัมเมอร์ (Michael Gross) ต้องไปฟัดกับพวกแกรบบอยด์ที่อาร์คติกครับ โดยมีเจ้าลูกชายตัวแสบทราวิส (Jamie Kennedy) ตามไปประกบด้วย
เปิดดูยามเช้าแบบไม่คาดหวังครับ คิดว่าจะดูเอาขำๆ ระหว่างออกกำลัง ผลปรากฏว่าผมโอเคกับหนังไม่น้อยเหมือนกัน
เรื่องนี้เห็นโปสเตอร์มานานมาก ที่เตะตาก็คือ เฮียหลอเจียเหลียง แห่งหนังชุดเข้มข้นอมตะ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ขึ้นหน้าอยู่หรา แต่ก็สารภาพว่าใจนั้นมันมองเชิงลบไปแล้วน่ะครับว่าหนังคงไม่ค่อยเวิร์กล่ะกระมัง
หนังสัตว์โลกน่ารักจากสิงคโปร์ครับ เรื่องของรถไฟใต้ดินขบวนหนึ่งที่เกิดออกนอกเส้นทางไปหยุดอยู่กลางอุโมงค์ แล้วปัญหาคือดันมีสัตว์ประหลาดป้วนเปี้ยนอยู่ ผู้โดยสารที่ยังเหลือรอดก็เลยต้องหนีตายกันไป
ตอนแรกผมก็คิดว่าหนังจะมาแนวสัตว์โลกน่ารักว่าด้วยแมงมุมอสุรกายจากใต้ทะเลลึก แต่กลายเป็นว่าหนังจับฉ่ายกว่าที่คิดไว้พอสมควร