เป็นเรื่องธรรมดาที่ชีวิตคนเรานั้นจะต้องเจอวันที่สับสนและหลงทาง จนเราต้องล้มคว่ำคลุกฝุ่นถลอกปอกเปิก และในวันแบบนั้น เราก็ต้องการหลักสักหลักหนึ่ง มายึดไว้ เพื่อพยุงตัวเราให้ลุกขึ้นอีกครั้ง
เป็นเรื่องธรรมดาที่ชีวิตคนเรานั้นจะต้องเจอวันที่สับสนและหลงทาง จนเราต้องล้มคว่ำคลุกฝุ่นถลอกปอกเปิก และในวันแบบนั้น เราก็ต้องการหลักสักหลักหนึ่ง มายึดไว้ เพื่อพยุงตัวเราให้ลุกขึ้นอีกครั้ง
หนังดีอีกเรื่องที่จัดว่าโดนใจทีเดียวครับ มันเป็นส่วนผสมระหว่างหนัง Feel Good กับ Feel Suck กล่าวคือมีทั้งส่วนที่ดูแล้วเกิดความหวังและพลังชีวิต แล้วก็มีส่วนที่ดูแล้วตระหนักถึงด้านเฮงซวยของชีวิตอยู่เหมือนกัน
ขอบอกครับว่า “รักหนังเรื่องนี้จุงเบย “
มีมาให้แนะนำอีกแล้วครับสำหรับคนชอบหนัง Feel Good (แม้เรื่องนี้อาจจะผสมๆ อารมณ์ Feel Suck เข้าไปด้วยก็เถอะ 555)
ว่าตามจริงผมชอบพล็อตของ The Rewrite ครับ เพราะถ้าปรุงออกมาดีๆ ล่ะก็ หนังจะให้สาระแก่ชีวิต ให้แง่คิดต่อหัวใจ และให้กำลังใจทั้งกับคนที่กำลังมีฝันและคนที่ความฝันกำลังจะหมดอายุลงไป
ถ้าถามว่าระยะหลังๆ มานี้ผมจดจ่อติดตามผลงานของผู้กำกับคนไหน ก็ตอบได้เลยว่าคนที่มาเป็นอันดับต้นๆ คือ Nancy Meyers
และแล้วบุญชูกับโมลีก็ได้ฤกษ์ร่วมหอลงโรงกันซะที แต่ก็เกิดปัญหาใหญ่ เพราะแม่บุญล้อมต้องการให้โมลีแต่งมาอยู่สุพรรณ ส่วนพี่มานี (พี่สาวของโมลี) ก็อยากให้บุญชูย้ายมากรุงเทพ ทีนี้ด้วยประเพณียังไงฝ่ายหญิงก็ต้องมาอยู่กับฝ่ายชายที่บ้านเก่าริมคลอง พี่มานีเลยยื่นคำขาดว่าจะยอมปล่อยให้น้องสาวคนเดียวมาอยู่บ้านนอกก็ต่อเมื่อบุญชูสามารถทำให้คลองสะอาด น้ำใสไร้มลพิษ ไม่งั้นก็ไม่ให้ย้ายอะไรทั้งนั้น
ครองตำแหน่งชื่อตอนยาวยืด พิสดารที่สุด และยังมีประเด็นดีๆ อัดแน่นไม่แพ้ภาคสอง
แฟนหนังไทยงงกันไปพักหนึ่ง ที่จู่ๆ บุญชูดันก้าวกระโดด จาก 1, 2 ไป 5 เฉยเลย จนมีคนถามว่า 3, 4 น่ะไปไหน แล้วคนสมัยนั้นก็เอามาอำกันว่า “อ้อ 3 4 ไปรังสิต” วิญญาณพี่หยอยเข้าสิงแท้ๆ แหม ของเขาแรงจริง
ภาคนี้ทำเงินมากกว่าและได้รับการขนานนามว่าดีกว่าภาคแรก ในแง่คุณภาพ อาจเรียกได้ว่าดีที่สุดในหนังชุดนี้!