อีกหนึ่งหนังที่ดูแล้วชอบแบบไม่ทันตั้งตัว และใช่ครับ มันคือหนังแนว “ว่าด้วยช่วงหนึ่งของชีวิตคน” นั่นเอง
อีกหนึ่งหนังที่ดูแล้วชอบแบบไม่ทันตั้งตัว และใช่ครับ มันคือหนังแนว “ว่าด้วยช่วงหนึ่งของชีวิตคน” นั่นเอง
อีกหนึ่งหนังแนวสร้างพลังใจครับ ด้วยการเอาชีวิตของนักมวยนักเทศน์ จอร์จ โฟร์แมน มาบอกเล่า
เรื่องนี้ถือว่าผสมๆ กันระหว่างหนังวันคริสต์มาส บวกหนังย้อนยุค แล้วก็ยังเป็นหนังชีวประวัติอีกด้วย และผลลัพธ์ที่ได้นี่ต้องนับว่าน่าพอใจทีเดียว
ถ้าท่านชอบหนังกีฬา ชอบหนังที่สร้างจากเรื่องจริง ชอบหนังที่สร้างแรงบันดาลใจ ชอบหนังที่เหมือนจุดไฟในตัวให้ฮึกเหิม ผมก็ขอบอกว่า “จัดเรื่องนี้สิครับ จะรออะไร”
หนังสร้างจากเรื่องจริงของ นิโคลัส วินตัน นายหน้าค้าหุ้นจากลอนดอน ผู้เป็นกำลังสำคัญในการช่วยพาเด็กๆ ออกจากกรุงปรากมาสู่อังกฤษ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังปะทุ โดยเขาสามารถช่วยเด็กๆ ออกมาได้ถึง 669 คน
สก็อต วอสส์ (Kevin James) ครูสอนชีววิทยาที่หมดไฟและใช้ชีวิตไปวันๆ แต่แล้วทุกสิ่งก็มีอันเปลี่ยนไปเมื่อเขาทราบว่าโรงเรียนกำลังถูกตัดงบและเพื่อนร่วมงานของเขาอย่างมาร์ตี้ (Henry Winkler) กำลังจะตกงาน แล้วไหนจะโครงการดนตรีของนักเรียนกำลังจะถูกยุบอีก เขาเลยเอ่ยปากต่อหน้าที่ประชุมว่าจะหาเงินมาช่วยโรงเรียนให้ได้ และวิธีหาเงินของเขาก็คือการไปลงสนามนักสู้ใต้ดิน แล้วความสนุกก็เริ่มต้นตรงนั้นล่ะครับ
สิ่งแรกที่ผมต้องแจ้งให้ทุกท่านทราบคือ รีวิวชิ้นนี้ปราศจากความเป็นกลางนะครับ ขอเขียนแบบเป็นตัวเองล้วนๆ ตามสไตล์เลยแล้วกัน
นี่เป็นหนังจีนชุดความยาว 48 ตอนครับ และผมแนะนำเรื่องนี้สุดชีวิต ใครที่ชอบแนวย้อนยุคว่าด้วยตัวละครสู้ชีวิต ใช้สมองแก้ปัญหาพลิกแพลงในการทำธุรกิจนี่ เรื่องนี้ไม่อยากให้พลาดเลยจริงๆ
อดีตดาวอเมริกันฟุตบอลพิตต์สเบิร์ก พอล ครูว์ (Adam Sandler) ก่อเรื่องซะจนถนนป่วนขนานหนัก พี่ท่านเลยโดนจับเข้าคุกซะ แล้วทีนี้ในคุกเนี่ย ท่านพัสดี (James Cromwell) ก็อยากจะให้พอลมาช่วยปั้นทีมนักโทษให้มาแข่งกับทีมผู้คุม แล้วความสนุกก็เริ่มขึ้นที่ตรงนั้นครับ
หนังประเภทฉีกชะตาท้าลิขิตนี่ขอให้บอกครับ ผมนี่ชอบอยู่แล้ว อย่างเรื่องนี้ก็ถือว่าสนุกเข้าท่าจนผมยินดีที่จะเอามาดูซ้ำยามว่างครับ ซึ่งตอนดูซ้ำก็ยังสนุกอยู่