กล่องรูบิคมันไม่ยอมสงบครับ ภาค 2 นี่น่าจะสยบกล่องไปได้แล้วนะ แต่มันยังหน้าด้านกลับมาได้อีก
กล่องรูบิคมันไม่ยอมสงบครับ ภาค 2 นี่น่าจะสยบกล่องไปได้แล้วนะ แต่มันยังหน้าด้านกลับมาได้อีก
มาครับ มาต่อกันเลย กับเรื่องสยองที่ยังไม่จบสิ้นลง หลังจากภาคแรกที่คริสตี้ ค็อตตอน (Ashley Laurence) ต้องเผชิญกับเหล่าซีโนไบท์และเจอนรกสุดโหดมาแล้ว ครั้งนี้เธอจำเป็นต้องกลับไปเปิดกล่องรูบิคนั่นอีกครั้งเพื่อเข้าไปช่วยวิญญาณพ่อของเธอในนรก
เอาล่ะครับ หนังชุดสุดสยองต่อไปนี้ เป็นหนังสยองโหดครับ ทั้งแหวะ สยอง ซาดิสม์ และโรคจิตครบสูตร (แต่ผมชอบมากกกก) ภาพในโปสเตอร์ก็มักจะเป็นตัวประหลาด ที่ดูดิบๆน่ากลัวๆ ซึ่งอาจจะรบกวนจิตใจคนขวัญอ่อนได้นะครับ ดังนั้นถ้าขวัญไม่แข็งนัก ก็เตรียมใจนิดหรือไม่ก็ข้ามๆไปเลยแล้วกัน ส่วนพวกขวัญแข็ง ดิบๆ (คอเดียวกับผม) ก็ตามมาดูกันเลยครับ
ผู้กำกับ Victor Salva ยังคงกลับมารับหน้าที่เดิม รวมไปถึงเขียนบทสานต่อเรื่องราวจากภาคแรก กับการกลับมาของจอมปีศาจพันธุ์กินคน ซึ่งคราวนี้เป้าหมายของมันคือนักเรียนไฮสคูลที่นั่งกันอยู่เต็มรถ ระหว่างทางกลับมาจากการแข่งกีฬา
ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผมนิยมแนะนำหนังแนวสยองจัง ก็เพราะดูเยอะน่ะสิครับ เลยมีเอามาพูดถึงเยอะ และถ้าจะว่าไปหนังแนวที่ดูง่ายสุดสบายสุดก็หนีไม่พ้นแนวนี้หรอกครับ แค่นั่งไปดูว่าน่ากลัวมั้ย บรรยากาศดีมั้ย สนุกมั้ย พวกสาระไม่ต้องไปควานหาให้มากมาย
สำหรับผม Starship Troopers เป็นหนังแอ็กชันไซไฟที่ดูได้เพลินมาก เอามันส์แบบเต็มๆ เราจะได้เห็นเหล่าตัวเอกแบกปืนไปยิงกระสุนซัดแมลงยักษ์ตัวร้ายจากนอกโลก ซึ่งถ้าพูดถึงความมันส์แล้วผมว่าหนังตอบสนองให้เราได้แบบไม่ผิดหวังเลยครับ ยิงกัน สู้กัน หนีกัน มีอะไรให้ลุ้นตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงแต่มันอาจไม่ใช่หนังบู๊ที่มีอะไรลึกซึ้งมากมายเท่านั้นเอง
อาวุธลับอันทรงประสิทธิภาพของแวมไพร์ คือ เสน่ห์อันรัญจวนยวนใจ ยั่วให้คนหลงใหลไปกับมัน เหยื่อน้อยใหญ่เมื่อโดนอาวุธนี้แล้วก็ยากจะหนีพ้น บ้างก็หลงใหลรูปโฉมชวนพิสมัย บ้างพอสัมผัสก็ปลุกตัณหาหลากประการขึ้นมาในดวงจิต บ้างก็เกิดปรารถนาอยากกลายเป็นแวมไพร์เลยก็มี
นี่คือหนังเรื่องแรกภายใต้การสร้างของค่าย Dreamworks นะครับ จำได้ว่าตอนเข้าโรงผมไม่ได้ไปดูเนื่องจากเพื่อนๆ มาเล่าคร่าวๆ ว่ามันไม่สนุกอย่างที่คิด ครั้นพอวีดีโอออกผมก็หามาดู และเกิดชอบขึ้นมาจนต้องซื้อเก็บ (ผมจึงชอบบอกเสมอว่าความชอบของคนต่างกัน หนังที่คนอื่นว่าไม่ดีเราอาจว่ามันดีก็ได้ เป็นเรื่องธรรมดาอย่างหนึ่ง )
สรุปว่า 4 = 1 > 5 > 3 > 2 ครับ
ไม่ได้ใบ้หวย แต่นั่นคือลำดับความชอบของหนังชุด Mission: Impossible เรียงจากมากสุดลงไปครับ
พูดได้เต็มปากว่าชอบภาคนี้สุดๆ จนออกจะชอบมากกว่าภาคแรกที่ผมเคยยกให้เป็นภาคที่เจ๋งสุดของหนังชุดนี้น่ะนะครับ