มาถึงตอนที่ 3 ของหนังชุด Frankenstein ฉบับ Hammer Films แล้วนะครับ Peter Cushing ยังคงรับบทเป็น บารอนแฟรงเกนสไตน์ และกลับมายังปราสาทเพื่อดำเนินการทดลองต่อไป โดยมีฮานส์ (Sandor Eles) ผู้ช่วยผู้ซื่อสัตย์คอยเป็นลูกมือและช่วยหาศพมาให้
มาถึงตอนที่ 3 ของหนังชุด Frankenstein ฉบับ Hammer Films แล้วนะครับ Peter Cushing ยังคงรับบทเป็น บารอนแฟรงเกนสไตน์ และกลับมายังปราสาทเพื่อดำเนินการทดลองต่อไป โดยมีฮานส์ (Sandor Eles) ผู้ช่วยผู้ซื่อสัตย์คอยเป็นลูกมือและช่วยหาศพมาให้
หนังต่อจากภาคที่แล้ว (The Curse of Frankenstein) ครับ ซึ่งในตอนนี้ วิคเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ (Peter Cushing) นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้บ้าคลั่งกำลังโดนพาไปยังลานประหาร เพื่อรับโทษที่เขาได้ก่อไว้ แต่แล้วเขากลับหนีออกมาได้ แล้วรีบหลบหนีไปยังเยอรมัน พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น ดร. สไตน์
ช่วงนี้ผมก็จะทยอยรีวิวหนังที่ลุง Peter Cushing ดารายอดฝีมือผู้ล่วงลับแสดงเอาไว้นะครับ ซึ่งปกติลุงเขามักจะร่วมแสดงในหนังสยองหรือหนังลึกลับจากค่าย Hammer Films ค่ายหนังชื่อดังในยุค 60 – 80 ของอังกฤษ ที่จะถนัดสร้างสรรค์หนังสยองแนวโกธิคออกมาอย่างหนังชุด Dracula ที่ Christoper Lee แสดงนำเป็นต้น
นี่น่าจะเป็นหนังดีที่ผมพิมพ์รายละเอียดรีวิวน้อยที่สุดเรื่องหนึ่งเลยล่ะครับ
ยังไม่จบครับสำหรับเรื่องราวของเหล่ามอนสเตอร์เก่าแก่แห่งค่าย Universal
นักวิทยาศาสตร์ผู้บ้าคลั่ง ดร. กุสตาฟ นีมานน์ (Boris Karloff) กับ แดเนี่ยล (J. Carrol Naish) ข้ารับใช้หลังค่อมได้หนีออกจากที่คุมขังพร้อมด้วยความแค้น และสิ่งแรกที่เขาคิดจะทำเมื่อหนีออกมาคือ การนำเอาจอมผีดิบ แดร็กคูล่า (John Carradine) มาใช้ในงานล้างแค้น
เรื่องนี้ถือเป็นภาคต่อของหนังชุด Frankenstein (ถือเป็นตอนที่ 5) และ The Wolf man (ถือเป็นตอนที่ 2) ครับ กับการจับเอา 2 มอนสเตอร์ระดับตำนานของ Universal มาเจอกัน
เรื่องราวตอนที่ 4 ในหนังชุด Frankenstein ของค่าย Universal Pictures นะครับ
นี่คือเรื่องราวตอนที่ 3 ในหนังชุด Frankenstein ที่แสนคลาสสิกของค่าย Universal Pictures นะครับ ต่อจาก Frankenstein (1931) และ Bride of Frankenstein (1935)
จำได้ว่าตอนหนังเข้าฉายนั้นมีการโปรโมตโฆษณากันพอสมควรครับ จนผมเองก็ยังคิดว่าเป็นหนังใหญ่ ยิ่งช่วงนั้น The Mummy ก็กำลังมีกระแส เลยพลอยคิดว่าหนังคงทำออกมาฉายชนกันแบบยักษ์ชนยักษ์ แต่ที่ไหนได้หนังคนละเกรดเลยครับ