นี่คือกัปตันอเมริกาเวอร์ชั่นหนังทีวีน่ะครับ สร้างตั้งแต่ปี 1979 ซึ่งก่อนผมจะได้ดูก็รู้เรื่อยมาว่าเวอร์ชั่นนี้โดนสับเป็นบะช่อขนาดไหน แต่ก็นั่นแหละครับ ไม่ดูก็ไม่รู้ ต้องดูถึงจะเข้าใจว่ามันดีหรือไม่แค่ไหน
นี่คือกัปตันอเมริกาเวอร์ชั่นหนังทีวีน่ะครับ สร้างตั้งแต่ปี 1979 ซึ่งก่อนผมจะได้ดูก็รู้เรื่อยมาว่าเวอร์ชั่นนี้โดนสับเป็นบะช่อขนาดไหน แต่ก็นั่นแหละครับ ไม่ดูก็ไม่รู้ ต้องดูถึงจะเข้าใจว่ามันดีหรือไม่แค่ไหน
เชื่อว่าคนรุ่นผม (อายุราว 30 ขึ้น) น่าจะคุ้นชื่อ Robin Wliiams ดี สมัยนั้นถ้าหนังเรื่องไหนที่พี่คนนี้เล่น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่ามีดี สนุก และอาจมีความประทับใจพ่วงมาด้วย
I Am Number Four ทำให้นึกถึง Smallville แล้วผสมด้วย Twilight ซึ่งก็ไม่น่าแปลกล่ะครับ เพราะทีมเขียนบทก็คือ Alfred Gough และ Miles Millar คู่หูผู้สร้าง Smallville นั่นแหละ
เข้าใจผิดไปหลายกิโลเลยครับ ตอนแรกนึกว่าเรื่องนี้มันจะเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดอาละวาดกลางขั้วโลกที่เต็มไปด้วยพายุน้ำแข็ง (จินตนาการไปประมาณ The Thing น่ะครับ) แต่พอดูไปสักพักก็ถึงบางอ้าวครับ นี่มันหนังฆาตกรรมสืบสวนนี่หน่า
ผมเชื่อว่าหลายคนจำหนังเรื่องนี้ได้ครับ… แหม คิดดู สามพระเอกในวงการ แต่ละคนก็ผ่านงานหนังบู๊กันมาแล้วทั้งนั้น พากันมาแสดงเป็นสาวประเภทสอง… และแสดงได้เพริดพริ้งไม่ใช่เล่นซะด้วย
นี่คือฉบับรีเมกนะครับ อำนวยการสร้างโดย George A. Romero เจ้าตำรับหนังซอมบี้ of the Dead ที่ มอบหน้าที่กำกับให้กับเพื่อนรักอย่าง Tom Savini มือเมคอัพ Effect ที่ร่วมงานกันมาเป็นสิบปี ซึ่งนี่ก็เป็นงานกำกับชิ้นแรกและชิ้นเดียวของเขาครับ (ที่เป็นหนังใหญ่น่ะนะครับ)
และนี่ก็คือภาคที่ 6 ใน หนังชุดซอมบี้ตระกูล of The Dead ของลุง George A. Romero ต้นตำรับผีลืมหลุมกินคนเจ้าเก่านะครับ
ตอนที่ 5 ของหนังซอมบี้ตระกูล of the Dead ของลุง George A. Romero กับเหล่านักศึกษาวิชาภาพยนตร์ที่กำลังถ่ายหนังสยองขวัญว่าด้วยมัมมี่กันอยู่ แต่แล้วพวกเขาก็ได้รับข่าวว่าตอนนี้ในเมืองกำลังมีคนตายลุกขึ้นมากัดกินคนเป็น การถ่ายหนังเลยต้องยุติครับ พวกเขาตัดสินใจแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความหวังว่าเรื่องที่ได้ยินมานั้น จะเป็นเพียงเรื่องแหกตา
หลังจาก George A. Romero เจ้าพ่อหนังซอมบี้ของเราได้ทำหนังจนครบไตรภาค แต่ลึกๆ แล้ว เขาก็ยังไม่สมหวังดังใจหรอกครับ เพราะ Day of the Dead หนังปิดไตรภาคนั้น Romero เองต้องสร้างแบบจำใจ เนื่องจากโดนหั่นงบเหลือครึ่งเดียว ทำให้ฉากมากมาย เนื้อหาอีกหลายอย่างที่เขาอุตส่าห์คิดไว้ไม่สามารถถ่ายทอดลงบนแผ่นฟิล์มได้
ด้วยกระแสความดังของ Dawn of the Dead ทำให้ชื่อของ George A. Romero กลับมาอีกครั้งแบบดังกว่าเดิม นับจากนั้นเขาก็ทำหนังด้วยความระมัดระวัง ไม่ระดมเอาแต่จำนวนเหมือนแต่ก่อน ทำให้งานอย่าง Knightriders (1981) และ Creepshow (1982) ที่ทำกับ Stephen King ทั้งหมดล้วนออกมาน่าพอใจ รายได้ไม่ขี้ริ้ว