อีกหนึ่งหนังที่โดดเด่นสุดๆ ทั้งในแง่การเล่าเรื่องและการแสดงครับ
ตัวหนังนั้นเล่าไปเรื่อยๆ เนื้อเรื่องจริงๆ ไม่ซับซ้อน แต่หนังเล่าได้อย่างตรงจุด เล่าแต่เนื้อๆ ไม่มีการนอกเรื่องแวะไปโน่นไปนี่ หนังเลยมีจุดให้คนดูโฟกัสและติดตามไปตั้งแต่ต้นจนจบ และพอดูจบก็ให้ความรู้สึกที่เต็มอิ่มกำลังดี
แล้วพอการเล่าเรื่องดีๆ มาบวกกับการแสดงเด็ดๆ หนังเลยเปี่ยมพลัง โดยเฉพาะ Javier Bardem นี่สุดยอดเหลือแสน เขาสามารถแผ่รังสีความน่ากลัวของตัวละครชิเกอร์ได้อย่างน่าปรบมือ จนไม่แปลกใจเลยที่พี่เขาจะได้ออสการ์ไปจากบทนี้ – สารภาพว่าผมยังจดจำใบหน้าของพี่เขาตอนที่ลงมือรัดคอตัวละครหนึ่งในตอนต้นเรื่องได้ครับ มันดูน่ากลัวและน่าขนลุกเสียจริงๆ
ในขณะที่ดาราท่านอื่นไม่ว่าจะ Tommy Lee Jones, Josh Brolin, Woody Harrelson และ Kelly Macdonald ต่างก็ตีบทได้แตก สามารถสวมวิญญาณเป็นตัวละครนั้นๆ ได้อย่างน่าเชื่อ
แน่นอนว่าก็ต้องชม Ethan และ Joel Coen ที่สามารถดัดแปลงจากหนังสือมาสู่หนังได้อย่างยอดเยี่ยม ตามด้วยการเล่าเรื่องที่เรียบง่าย แต่กลมกล่อมและเปี่ยมพลัง จนไม่แปลกใจอีกเช่นกันที่หนังจะสามารถคว้าออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมไปครอง
ถ้าถามว่าชอบฉากไหน จริงๆ ก็คือชอบทั้งเรื่องน่ะครับ แต่ถ้าจะเอาที่มันสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้นฉากที่ชิเกอร์โยนเหรียญหัวก้อยกับคุณลุงที่ปั้มน้ำมัน ฉากนั้นเรียบง่าย แต่มีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ และที่สำคัญคือมันบังเกิดความลุ้นได้แบบสุดติ่งโดยที่ไม่ต้องมีแอ็คชั่น ปืนผาหน้าไม้ หรือความโหดร้ายรุนแรงใดๆ… และฉากนี้ก็ทำเอาผมหลอนจนไม่กล้าจะทักคนแปลกหน้าไปพักใหญ่เลยนั่น
และการที่หนังเรื่องนี้แทบไม่มีเสียงดนตรีใดๆ ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศของหนังดูขลังยิ่งขึ้นไปอีก
หนังเปิดช่องให้ตีความได้หลากหลาย ส่วนผมนั้นชอบจะมองตัวละครชิเกอร์ว่าเป็นเหมือนตัวแทนของ “ความตาย” ที่เมื่อถึงเวลาเราก็จะไม่อาจหลีกเลี่ยง ไม่ว่าจะอย่างไรมันก็จะหาเราเจอเสมอ และไม่ว่าเราจะพร้อมหรือไม่ แต่ความตายก็จะทำหน้าที่ของมัน ตามความตั้งใจของมัน โดยที่เราไม่อาจควบคุม และไม่อาจต่อรอง
ความตายมีตรรกะของมัน บางครั้งเราก็อาจไม่เข้าใจตรรกะนั้น และมันก็ไม่รอให้เราเข้าใจ
หรือถ้าเราคิดว่าเข้าใจความตาย และคิดว่าเดากติกาของมันได้ แต่บางครั้งความตายก็ไม่ยึดกฎกติกา มันสามารถมาในรูปแบบที่นอกเหนือจากสิ่งที่เราคาด นอกเหนือจากกรอบกติกาที่เราคิด และมันจะส่งผลต่อชีวิตเรารวมถึงคนรอบข้าง ไม่ว่าเราหรือใครๆ จะชอบหรือไม่ก็ตาม
และพอนึกถึงตรรกะของชิเกอร์แล้ว เขาก็ทำให้ผมตระหนักถึงความจริงที่ว่า คนแต่ละคนย่อมส่งผลต่อคนอื่นเสมอ เหมือนคุณมีเพื่อนบ้านที่เลี้ยงสุนัข ถ้าเพื่อนบ้านคนนั้นเลือกที่จะปล่อยให้สุนัขมาฉี่หน้าบ้านคุณ แล้วเขาก็มีตรรกะว่า “ฉี่ไปก็ไม่เห็นเป็นไร” คุณก็จะมีเส้นชีวิตแบบหนึ่ง
แต่ถ้าตรรกะของเขาคือ “เราไม่ควรทำให้คนอื่นเดือดร้อน” เขาก็จะไม่ปล่อยสุนัขออกมาเพ่นพ่าน หรือถ้าจะปล่อยเขาก็ต้องดูแลไม่ให้มันไปฉี่หน้าบ้านคนอื่น หรือถ้าสุนัขฉี่ก็จะทำความสะอาดให้พร้อมกล่าวคำขอโทษต่อเจ้าของบ้านที่สุนัขไปสร้างความเดือดร้อน – แล้วชีวิตของคุณก็จะเป็นไปอีกเส้นหนึ่ง…
สังคมของเราจะเป็นเช่นไรนั้น ก็คือผลมวลรวมของตรรกะจากคนในสังคมนั้นๆ มาผสมรวมกัน – จะดีจะแย่ก็ขึ้นอยู่กับผู้คนส่วนใหญ่นั่นแหละ
อีกประเด็นหนึงที่ดูแล้วมันคิดตามก็คือ การที่นายอำเภอเอ็ด ทอม เบลล์ (Jones) ไม่ตามคดีของชิเกอร์ต่อนั้น มันทำให้เขาได้กลับไปกินข้าวกับเมีย แต่ถ้าหากว่าเขาเลือกที่จะตามรอยชิเกอร์แบบสุดทาง เขาก็อาจกลายเป็นหนึ่งในศพที่ชิเกอร์ทิ้งไว้ระหว่างทางก็ได้ – อันนี้ไม่ได้จะชี้ว่าถูกหรือผิดครับ แต่แค่สรุปเหตุการณ์ ว่า “เพราะเช่นนั้น เลยเป็นเช่นนี้”
มาฟังเกร็ดหนังกันครับ ว่ากันว่าตอนที่พี่น้อง Coen ติดต่อทาบทามให้ Bardem มาแสดงนั้น เขาก็บอกกับพี่น้องผู้กำกับว่า “ผมไม่ขับรถ, พูดอังกฤษก็แย่ และไม่ชอบความรุนแรงนะครับ” พี่น้อง Coen ก็เลยตอบไปว่า “เพราะแบบนั้นแหละเราถึงสนใจคุณ” แล้วในที่สุด Bardem ก็ตอบตกลงมาเล่น เพราะใจจริงน่ะเขาอยากร่วมงานกับพี่น้อง Coen มานานแล้ว
และ Bardem ยังกลายเป็นนักแสดงชาวสเปนคนแรกที่ได้รางวัลออสการ์ไปครอง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็ครองตำแหน่งนักแสดงชาวสเปนคนแรกที่ได้เข้าชิงออสการ์ไปแล้วทีหนึ่งจากตอนเล่นหนังเรื่อง Before Night Falls
แล้วหนังก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามครับ นอกจากได้ 4 ออสการ์มาครองแล้ว ในแง่รายได้ก็นับว่าสวยเพราะหนังทำเงินทั่วโลกไปกว่า $171 ล้าน จากทุนสร้างราว $25 ล้านเท่านั้น
อีกหนึ่งหนังดีที่มีดี คุ้มค่าน่าดู
สี่ดาวครับ
(9/10)
หมวดหมู่:Crime, Drama, Highly Recommended Movies, Movie Reviews, Thriller














