โซฟี ฮอลล์ (Amanda Seyfried) ฝ่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงของเดอะ นิวยอร์คเกอร์ที่เดินทางมาพรีฮันนีมูนกับวิคเตอร์ คู่หมั้นของเธอที่เมืองเวโนร่า ประเทศอิตาลี แต่พอวิคเตอร์ดูจะสนงานมากกว่าสนเธอ โซฟีเลยขอแยกตัวออกมาเที่ยวในเวโรน่าเอง และนั่นทำให้เธอได้เจอกับคณะเลขาของจูเลียต (Secretaries of Juliet) ที่ทำหน้าที่คอยตอบจดหมายที่คนเขียนถึงจูเลียต แล้วโซฟีก็สนิทกับสาวๆ กลุ่มนี้ (ทั้งสาวน้อย และสาวใหญ่) อย่างรวดเร็วครับ

จากนั้นเธอก็ได้ไปเจอกับจดหมายถึงจูเลียตที่ถูกซ่อนไว้หลังกำแพงมา 50 ปี หลังจากอ่านจดหมายแล้วเธอก็ตั้งใจจะตอบจดหมายฉบับนี้ด้วยตนเอง อันทำให้เธอได้พบกับแคลร์ (Vanessa Redgrave) เจ้าของจดหมายที่มีความฝันอยากเจอกับลอเรนโซ่ คนที่เธอรักเมื่อ 50 ปีก่อนนั้นอีกสักครั้ง โซฟีเลยได้ร่วมเดินทางไปกับแคลร์ พร้อมด้วยชาร์ลี (Christopher Egan) หลานชายของแคลร์ที่ดูจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการผจญภัยครั้งนี้สักเท่าไหร่

ถือเป็นหนังรอมคอมที่ดูสนุกใช้ได้เลยครับ อย่างแรกที่กระแทกหูสำหรับผมคืออเพลงครับ หนังมี Soundtrack ดีๆ อยู่เยอะ เอาแค่เปิดมาด้วยเพลง You Got Me ของ Colbie Caillat แค่นี้ก็ได้ใจแล้ว ไหนจะมีเพลง Love Story ของ Taylor Swift ใส่ลงไปในจังหวะเหมาะอีกๆ แล้วก็บวกด้วยดนตรีทำนองเบาๆ เคล้าอารมณ์รักของ Andrea Guerra และที่ลืมไม่ได้คือบรรยากาศดีๆ และวิวสวยๆ ที่ไปถ่ายทำกันที่อิตาลีจริงๆ อะไรเหล่านี้ช่วยเพิ่มดีกรีความโรแมนซ์ให้หนังได้มากพอสมควร

ส่วนดารานั้น Seyfried เธอลอยลำอยู่แล้วครับ บทสาวน้อยน่ารักที่ชอบค้นหาความจริงนี่เหมาะกับเธอแบบสุดๆ ร่วมด้วย Vanessa Redgrave ทีดูแล้วเชื่อว่าหญิงสูงวัยผู้นี้แม้มีสังขารร่างกายที่อาจจะโรยราไปตามอายุ แต่หัวใจและแววตาจองเธอยังเปี่ยมล้นไปด้วยความหวังที่จะได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิต ซึ่ง Redgrave ก็ทำให้เราสัมผัสได้ครับ ว่าเธอคือผู้หญิงคนนั้นจริงๆ

สำหรับบทพระเอกของเรื่องนั้น ผมว่า Egan ก็ถือว่าพอได้อยู่ครับ คือตอนที่เขาแสดงอาการหัวร้อนหรือหงุดหงิดนี่เราจะรู้สึกเชื่อได้ไม่ยากว่าเขากำลังไม่พอใจจริงๆ ส่วนนี้เขาเล่นได้ดีครับ แต่ในส่วนของความอ่อนโยนหรือความเป็นพระเอกรอมคอมอาจจะดูพร่องไปบ้าง – คือพี่แกยังติดจะดูหงุดหงิดอยู่น่ะครับ – ส่วนตัวผมมองว่า Hugh Dancy ตัวเลือกแรกๆ ของบทนี้อาจจะเหมาะกับบทชาร์ลีมากกว่า

แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะโดยรวมหนังถือว่าดี การเล่าเรื่องถือว่าพอเหมาะ ดูสนุกและชวนติดตามไปเรื่อยๆ ซึ่งนี่ก็เป็นงานกำกับของ Gary Winick แห่ง 13 Going on 30 และ Charlotte’s Web และมันได้กลายเป็นผลงานเรื่องสุดท้ายของเขาด้วย เพราะเขาได้จากเราไปในปี 2011 ราวๆ 1 ปีหลังจากหนังเรื่องนี้ออกฉาย ด้วยสาเหตุจากโรคมะเร็งสมองครับ ซึ่งก็ต้องแสดงความอาลัยมา ณ ที่นี้ด้วย

และในมุมมองของผมแล้ว จากที่ดูผลงานของเขามา ผมยกให้เรื่องนี้เป็นหนังของเขาที่ผมชอบที่สุุดครับ

สำหรับไอเดียตั้งต้นของหนังเรื่องนี้ก็มาจากหนังสือครับ ไม่ใช่นิยายนะ แต่เป็นหนังสือชื่อ Letters to Juliet ที่เล่าถึงปรากฏการณ์ที่มีคนจำนวนมากมายเขียนจดหมายถึงจูเลียต ตัวละครสุดโด่งดังของ William Shakespeare – หนังสือเล่มที่ว่าเขียนโดย Lise Friedman และ Ceil Friedman ครับ – และกลุ่มคนที่คอยตอบจดหมายเหล่านี้ก็มีจริงๆ ด้วยนะครับ เป็นอาสาสมัครที่เรียกตัวเอกว่า The Juliet Club ครับ

แล้วก็อย่างที่ทราบนะครับว่าหนังไปถ่ายกันที่อิตาลีตามสถานที่จริงต่างๆ และหนึ่งในนั้นก็คือสนามบ้านของจูเลียตซึ่งที่นั่นยอมปิดเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้กองถ่ายได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในที่แห่งนี้ครับ

นอกจากนี้ Amanda Seyfried ยังซุ่มเรียนภาษาอิตาเลี่ยนเพื่อหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะด้วยครับ

ตัวหนังถือว่าทำเงินไม่เลวครับ ทำไปราว $79 ล้านจากทั่วโลก ในขณะที่ทุนสร้างคือ $30 ล้านก็ถือว่าพอโปะทุนได้อยู่ ส่วนกำไรก็ค่อยไปว่ากันอีกทีตอนออกแผ่นและลงสตรีมตามระเบียบ

ใครชอบหนังรอมคอมก็จัดได้เลยครับผม

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)