นายอำเภอเจค วิลคอตต์ (Charlie Weber) ที่ดูแลเมืองเล็กๆ อย่างสงบกำลังจะต้องพบศึกใหญ่เมื่อมีแก๊งวายร้ายนำโดยมาร์คัส โนแว็ก (James Oliver Wheatley) กำลังตรงมาที่เมืองนี้เพื่อเล่นงานนาธาเนียล แมทเธอสัน (Henry Thomas) ชายลึกลับที่ถูกจองจำอยู่ในคุก – งานนี้เมืองลุกเป็นไฟแน่ครับ

ดูจากหน้าหนังชวนให้นึกถึง The Last Stand (ที่พึ่บึ๊ก Arnold Schwarzenegger แสดง) บวกกับ Assault on Precinct 13 เพียงแต่เรื่องนี้ฉากดวลเดือดย้ายจากโรงพักไปเป็นบ้านนายอำเภอแทน ซึ่งก็ต้องว่ากันตรงๆ ว่าความสนุกของเรื่องนี้สู้ 2 เรื่องที่ผมกล่าวไปไม่ได้ครับ

ครึ่งเรื่องแรกหนังก็ปูพื้นตัวละคร บอกว่าใครเป็นใคร ก่อนที่มาร์คัสจะยกพวกเดินทางมายังเมืองนี้ แล้วก็ทิ้งศพไว้เกลื่อนกลาดระหว่างทางซึ่งผมก็พอเข้าใจนะว่าพี่แกต้องการแสดงแสนยานุภาพ และเป็นการสื่อว่าแก๊งนี้โหดจริง ฆ่าคนไม่กะพริบตา แต่อีกทางหนึ่งก็แอบคิดน่ะครับว่าพี่ฆ่าคนเยอะขนาดนี้มันไม่เป็นการเรียกเจ้าหน้าที่ให้มาไล่ล่าพวกพี่รึ? แต่ดูจากหนังก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่อะไรมาตามรอยตามจับคนพวกนี้เลยครับ เพราะสุดท้ายนายอำเภอก็ต้องตั้งรับอยู่กับคนเพียงไม่กี่คน – ก็ไม่รู้ว่าหนังแอบวิพากษ์เจ้าหน้าที่อเมริกันหรือเปล่า อันนี้เดาเอาครับ ไม่รู้จริงๆ

หนังค่อนข้างเรื่อยๆ ครับ ส่วนใหญ่คือนั่งดูพี่มาร์คัสกับพวกฆ่าคนระหว่างทางไปเรื่อยๆ ส่วนฉากดวลเดือดนั้นก็ปาเข้าไปครึ่งชั่วโมงท้ายซึ่งถ้าให้พูดอย่างแฟร์ๆ ผมว่าก็พอได้นะ เพียงแต่จะมีติดนิดหน่อยตรงชั้นเชิงการสู้ที่ดูเหมือนพวกผู้ร้ายจะเอาแต่ไล่ยิงเป็นหลัก บางคนก็ยิงอย่างเดียวแต่ไม่สังเกตสังกาอะไร ก็เลยโดนสอยซะง่ายๆ และจริงๆ ผมว่าหนังคล้ายๆ จะสื่อว่าจริงๆ เจคเองก็มีของนะ มีความสามารถเยอะเหมือนกัน เช่นเดียวกับเอซร่า (Jon Voight) ที่เป็นนายอำเภอเก่าและดูจะเก๋าและยิงปืนแม่นไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน แต่หนังก็ไม่ชูตรงนี้มากนักน่ะครับ

ผมก็มาคิดน่ะนะครับ จริงๆ ถ้าหนังเน้นความเก่งของพระเอก (แบบที่หนังสไตล์นี้ชอบทำกัน) แล้วให้พระเอกไล่จัดการผู้ร้าย ปกป้องชีวิตใครต่อใครตามสไตล์หนัง Die Hard หนังอาจจะดูน่าสนใจกว่านี้ แต่กับเรื่องนี้นี่มันทำให้พระเอกดูเก่งไม่จริงน่ะครับ เพราะกลายเป็นว่าเขาปล่อยให้คนหลายคนต้องมาตายไป โดยเฉพาะลูกน้องนี่แต่ละคนจบไม่สวยทั้งนั้น ทั้งๆ ที่ถ้าเขาช่างสังเกตสักหน่อย เขาก็จะไหวตัวทัน จะได้หาทางปกป้องลูกน้องและชาวเมืองที่เหลือ แต่หนังก็ไม่เลือกจะไปในเวย์นั้นครับ เราเลยได้เห็นแต่คนร้ายฆ่าคน แทนที่จะได้เห็นฮีโร่ช่วยคน

โดยรวมผมว่าหนังก็ไม่ถึงกับแย่ครับ แค่ยังดีได้อีกเยอะเท่านั้นแหละ แต่ผมว่าเรื่องนี้ Jon Voight ดูดีขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆ นะครับ ก็ดีใจเหมือนกันที่ได้เห็นเขาดูดีขึ้น – เรื่องก่อนๆ ดูเขาจะมีปัญหาสุขภาพน่ะครับ แต่เรื่องนี้ดูแข็งแรงขึ้นหน่อย – แล้วอีกคนที่ยังสวยไม่สร่างก็คือ Katherine McNamara (Shadowhunters: The Mortal Instruments) สำหรับผมแล้ว เธอคือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมดูหนังจนจบครับ 5555

สรุปว่าถ้าดูแบบไม่คิดมากมันก็พอได้นะครับ แต่ถ้าอยากดูแนวนี้ที่มันเข้าท่าๆ ล่ะก็ ตามไปดู The Last Stand และ Assault on Precinct 13 จะถึงใจกว่ากันเยอะครับ

ยังไม่ถึงสองดาวครับ

(5.5/10)