มีคำร่ำลือว่ามุกสวรรค์คือของศักดิ์สิทธิ์ที่ว่ากันว่าสามารถชุบชีวิตคนได้ และแก๊งโจรกรรมเจ้าของฉายา “แก๊งแฝด” ก็หมายตาและส่งคนมาแย่งชิง โดยที่ผู้คุมกันมุกอย่าง จี๋เสียง (หงจินเป่า, Sammo Kam-Bo Hung) และหลิวซี (อู๋จิง, Wu Jing) ก็ไม่อาจพิทักษ์มันไว้ได้ – จริงๆ คือในการชิงครั้งนั้นไม่มีใครได้ไปครับ เพราะมุกดันไปตกอยู่กลางทางที่ซึ่งทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้ายก็ไม่รู้

ทีนี้ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้ายเลยออกตามหา โดยจี๋เสียงกับหลิวซีได้ไหว้วานให้ฉางชุง (หยวนหัว, Yuen Wah) อาจารย์ของสำนักแฝดให้ช่วยเกณฑ์ลูกศิษย์มาช่วยกันตามหาและรับมือกับเหล่าร้ายของแก๊งแฝดที่มีหัวหน้าคือฉางหยง แฝดน้องสุดชั่วของอาจารย์ฉาง (รับบทโดยหยวนหัวเหมือนกัน) และลูกศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของอาจารย์ฉางก็คือ เพิร์ล (อาเจียว, จงซินถง, Gillian Chung) กับ เจด (อาซา, ไช่จั๋วเหยียน, Charlene Choi) ครับ

แล้วพวกเขาจะได้มุกกลับคืนมาไหม ก็ต้องลองไปติดตามกัน

ก็เป็นหนังตามขบวนขาย 2 สาววง Twins 2 นักร้องชื่อดังแห่งยุคนั้น ที่มีหนังของพวกเธอออกมาเพียบและสารพัดแบบเลย สำหรับเรื่องนี้ก็มาในแนวแอ็คชั่นผสมฮาตามสูตรครับ ซึ่งก็ว่ากันตรงๆ คือครึ่งแรกออกจะเรื่อยไปสักหน่อย ซึ่งหนังจีนหลายเรื่องสไตล์นี้ก็มักเป็นแบบนี้ครับ คือตอนต้นเหมือนจะยังเล่าเรื่องแบบไม่เข้มนัก แล้วก็จะพยายามใช้เวลากับมุกตลกหรือเหตุการณ์วุ่นๆ ของตัวละครหลักเหมือนใส่ลงมาเพื่อยืดเวลาไปสักพัก เลยทำให้ครึ่งแรกมันดูเรื่อยๆ โฟกัสยังไม่ชัดแบบเต็มๆ

หนังจะเริ่มมาสนุกก็ตอนที่เหล่าตัวละครหลักต้องมาทำภารกิจร่วมกัน และความมันส์จะมาแบบเต็มที่ก็ต้องตอนท้ายที่ฝ่ายร้ายและฝ่ายดีปะฉะดะกันแบบเต็มแม็ก ซึ่งช่วงท้ายนี่ผมว่าก็ใช้ได้นะครับ มันส์ดู เพลินดี ฟัดกันสนุกใช้ได้

โดยรวมผมเลยว่าหนังอยู่ในระดับกลางๆ ครับ ช่วงครึ่งแรกการเล่าเรื่องมันดูอ่อนพลังและอ่อนความน่าสนใจไปหน่อย แต่ก็ยังดีที่ได้ดารามาช่วยไว้บ้าง และอีกอย่างที่ผมว่าทำให้หนังดูอ่อนพลังลงไปก็คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “แฝด” น่ะครับ คือมันเป็นคอนเซปต์ของเรื่องที่จะมีตัวละครเป็นแฝดที่แสดงโดยแฝดจริงๆ มากันหลายคู่ ซึ่งในแง่คอนเซปต์ก็เข้าใจได้ครับ แต่ในแง่การแสดงแล้วเหล่าแฝดทั้งหลายถือว่ากลางๆ ยังไม่ดึงดูดความสนใจได้ขนาดนั้น หลายช่วงของหนังมันเลยดูอ่อนพลัง – จนแอบคิดว่าถ้าหนังไม่จับประเด็นเรื่องแฝดมากเกินไป แล้วเอาดาราหน้าคุ้นมาสวมบทแทนตัวละครแฝดทั้งหลาย (ทั้งฝ่ายร้ายและฝ่ายดี) หนังอาจดูโอเคกว่าที่เป็นก็ได้

ส่วนดาราหน้าคุ้นในเรื่อง นอกจากที่เอ่ยไปแล้วก็ยังมี จางเชี่ยน (Jess Zhang) ภรรยาตัวจริงของเฮียจางเหว่ยเจี้ยนมาเป็น หลี่เหยา พี่สาวที่ห่วงใยน้องสาวที่กำลังป่วย, Shek Sau เป็น โปรเฟสเซอร์ม่อ ผู้เชี่ยวชาญโบราณวัตถุที่มีแผนบางอย่างกับหลี่เหยา และ Sam Lee แห่ง Gen-X Cops มาเป็นหมวดหลิน จอมขี้เก๊กประจำเรื่อง

สรุปว่าพอดูได้ แต่ช่วงต้นๆ อาจต้องทนหน่อยครับ

ยังไม่ถึงสองดาวครับ

(5.5/10)