
ผมเพิ่งรู้ครับว่าหนังเรื่องนี้มันมี 2 เวอร์ชั่น
เวอร์ชั่นแรกที่ได้ดูสมัยโน้น (ตอนออกวีดีโอ) ว่าด้วยเรื่องของนักผจญภัย (หลี่เหลียนเจี๋ย, Jet Li) ที่ได้รับการไหว้วานจากทางการให้ไปตามหาคัมภีร์ไร้อักษร แล้วเขาก็ต้องผจญกับคนของกองทัพญี่ปุ่นและกองโจรที่อยากได้คัมภีร์ไปเหมือนกัน – ตัวหนังก็ออกโทนเป็น Indiana Jones เวอร์ชั่นฮ่องกงน่ะครับ
แต่พอวันนี้มาดูมันเป็นอีกฉบับหนึ่ง กลายเป็นว่าเรื่องราวการผจญภัยตามหาคัมภีร์นั้นน่ะ เป็นนิยายที่เขียนขึ้นโดยคนยุคปัจจุบันครับ – คนที่เป็นนักเขียนก็แสดงโดยหลี่เหลียนเจี๋ยนั่นแหละ – กล่าวคือมีพล็อตเพิ่้มขึ้นมาว่าด้วยโลกยุคปัจจุบันที่นักเขียนคนนั้นกำลังจะหย่ากับภรรยา (กวนจื่อหลิน, Rosamund Kwan) เขากับพรรคพวกเลยช่วยกันปั่นงานเขียนออกมา แล้วก็สะท้อนความรู้สึกที่เจอในชีวิตจริงไป – หนังก็จะตัดสลับระหว่างเรื่องในปัจจุบันและเรื่องในโลกการผจญภัยน่ะครับ
ตอนแรกก็งงครับ คิดว่าตัวเองจำรายละเอียดผิด เพราะตอนดูรอบแรกมันไม่เจอเรื่องของนักเขียนนี่หน่า ครั้นพอไปค้นข้อมูลจึงได้รู้ว่าหนังเรื่องนี้มี 2 เวอร์ชั่น ซึ่งก็คือเวอร์ชั่นฉายในฮ่องกง อันเป็นเวอร์ชั่นที่มีเรื่องของนักเขียนในยุคปัจจุบัน กับอีกเวอร์ชั่นคือฉายนอกฮ่องกง เวอร์ชั่นนี้จะเล่าเรื่องการผจญภัยล้วนๆ ไม่มีเรื่องในโลกปัจจุบัน

ว่ากันว่าที่หนังมี 2 เวอร์ชั่นก็เนื่องมาจากระหว่างถ่ายทำนั้น ได้เกิดไฟไหม้ขึ้นในกองถ่าย ส่งผลให้ฉากต่างๆ ที่เซ็ทไว้มอดไหม้ เสียหายไปราว 10 ล้านเหรียญฮ่องกง หนังเลยประสบปัญหาเรื่องงบ เลยทำให้ต้องเขียนบทใหม่ เพิ่มเรื่องในยุคปัจจุบันลงไปเพื่อยืดเวลาในเรื่องให้ครบ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าถามว่าแล้วทำไมฉบับฉายนอกฮ่องกงถึงมีเล่าเฉพาะส่วนของนักผจญภัยล้วนๆ ไม่มียุคปัจจุบัน อันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดครับ ใครพอจะทราบแวะมาบอกกันได้
แต่ถ้าถามใจผมแล้ว ผมชอบเวอร์ชั่นที่มีแต่เรื่องของนักผจญภัยครับ มันดูเพลินและลื่นกว่า ในขณะที่ฉบับที่มีเรื่องยุคปัจจุบันมันดูไม่ค่อยเข้ากัน และบางจังหวะนี่มันทำให้การเล่าเรื่องสะดุด ประมาณว่าเรื่องในยุคอดีตกำลังเล่าเพลินๆ อยู่เลยเชียว แต่หนังก็ดันตัดมายุคปัจจุบันซะงั้น ความเพลินที่พึงมีเลยถูกเบรคให้ชะงักเป็นระยะๆ
สำหรับฉบับที่เล่าเรื่องนักผจญภัย ดร. ไวล้วนๆ นั้น ก็จัดว่าเพลินดีครับ มันอาจไม่เมามันส์ไหลลื่นเท่า Indiana Jones แต่ก็ดูได้เรื่อยๆ และจุดสนุกของหนังนี่ผมยกให้ลีลาบู๊ของอาเจี๋ยครับ ฉากไหนพี่ท่านออกหมัดซัดนัวล่ะก็ ฉากนั้นความสนุกจะเพิ่มขึ้น และอีกแรงก็ได้จากเหล่าดาราในเรื่องไม่ว่าจะ Takeshi Kaneshiro, หยางไฉ่หนี (Charlie Yeung), Collin Chou และ หลอเจียอิง (Law Kar-Ying)
แต่ถ้าว่ากันถีงอารมณ์ผจญภัยแล้ว หนังอาจจะยังตอบโจทย์จุดนี้ได้ไม่เต็มที่นักครับ เพราะมันไม่ค่อยมีฉากแบบเข้าไปยังสถานที่พิศวง บุกป่าฝ่าดง หรือต้องไขรหัสฝ่าด่าน อะไรเหล่านี้ไม่มีสักเท่าไร ซึ่งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสิ่งเหล่านี้จะมีอยู่ในฉากที่ถูกไฟไหม้ไปไหม ถ้าใช่ล่ะก็ จะถือว่าน่าเสียดายเอามากๆ เลยล่ะครับ
สรุปว่าหนังก็ดูได้แบบเรื่อยๆ ครับ คอแฟนหนังของอาเจี๋ยหรือคอหนังผจญภัยล่าสมบัติมาลองลิ้มดูได้
สองดาวครับ
![]()
(6/10)










