
ยอมรับนับถือคนเขียนบทหนังเรื่องนี้ (Nedrick Young และ Harold Jacob Smith) เลยครับ แค่พล็อตตั้งต้นก็น่าสนใจแล้ว จับให้นักโทษผิวขาวกับนักโทษผิวดำโดนล่ามโซ่คู่กัน จนทำให้ต้องไปไหนไปด้วยกัน
นักโทษผิวขาวคือ จอห์น แจ็คสัน (Tony Curtis) ส่วนนักโทษผิวดำคือโนอาห์ คัลเลน (Sidney Poitier) พวกเขาโดนจับล่ามโซ่คู่กันและทำท่าจะมีเรื่องกันอยู่หลายหน แล้วทีนี้ระหว่างทางรถขนนักโทษก็ประสบอุบัติเหตุ พวกเขาเลยหนีครับ เรื่องที่เหลือที่เราจะได้เห็นก็คือความสัมพันธ์ของพวกเขาที่ตอนแรกก็แง่งใส่กันเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่พอผ่านร้อนผ่านหนาว ผจญอะไรๆ มาด้วยกัน ก็เริ่มเกิดมิตรภาพต่อกัน
หนังได้ชิงออสการ์ถึง 9 สาขาครับ รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและดารานำยอดเยี่ยมที่ได้ชิงทั้ง Custis และ Poitier แต่สุดท้ายได้มา 2 รางวัล คือบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และกำกับภาพยอดเยี่ยม ซึ่งก็ถือว่าคู่ควรล่ะครับ เพราะบทนี่ก็อย่างที่ผมบอกไปว่าเข้าใจคิดมาก และเรื่องราวระหว่างทางก็ถือว่าชวนติดตาม อีกทั้งยังมีประเด็นชวนให้คิด ส่วนเรื่องการถ่ายภาพก็ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน หลายช็อตนี่ออกมาสวยทีเดียวครับ
แน่นอนว่าประเด็นหลักที่หนังพูดถึงคือเรื่องความต่างของสีผิว แต่ขณะเดียวกันหนังก็ยังสะท้อนประเด็นอื่นๆ ผ่านทางตัวละครที่ 2 นักโทษไปเจอระหว่างทาง ซึ่งกลายเป็นว่าคนในสังคมโลกที่พวกเขาไปเจอนั้น ที่มีสติและจิตใจดีก็มี แต่ที่เอาแต่อารมณ์ใช้แต่โทสะก็มีเช่นกัน เรียกว่าบางครั้ง 2 นักโทษของเราก็อาจเกิดคำถามในใจน่ะครับ ว่าตกลงที่ไหนมันน่ากลัวกว่ากันกันแน่ ระหว่างโลกในคุกที่พวกเขาหนีมา กับโลกภายนอกที่อุดมด้วยความสับสนอลหม่านไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
หนังกำกับโดย Stanley Kramer คนทำหนังรุ่นลายครามเจ้าของผลงานอย่าง Judgment at Nuremberg, It’s a Mad Mad Mad Mad World และ Guess Who’s Coming to Dinner ซึ่งสำหรับเรื่อง The Defiant Ones ก็ถือว่าอยู่ในทำเนียบหนังดีของเขาครับ จังหวะจะโคนในการเล่าเรื่องถือว่าพอเหมาะ งานสร้างต่างๆ ถือ ว่าถึงฟอร์ม และแน่นอนว่าพลังสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีดีน่าดูก็คือการแสดงระดับยอดของ Custis และ Poitier ทั้งสองสามารถถ่ายทอดคาแรคเตอร์ที่พวกเขาได้รับได้อย่างน่าจดจำจริงๆ

กล่าวกันว่าตอนแรกนั้น Elvis Presley คิดอยากมารับบทจอห์น แจ็คสันครับ แล้วก็อยากได้ Sammy Davis Jr. มาแสดงร่วมกัน แต่กลายเป็นว่าผู้จัดการของ Elvis พยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขาแสดง จนในที่สุด Elvis ก็ล้มเลิกความตั้งใจ
ส่วนผู้กำกับ Kramer นั้นมีภาพ 2 ดารานำในใจซึ่งก็คือ Sidney Poitier กับ Marlon Brando ซึ่งทั้งคู่ก็สนใจที่จะมาแสดงครับ แต่ทีนี้ Brando ติดถ่ายทำ Mutiny on the Bounty (ฉบับปี 1962) เลยมาแสดงไม่ได้ ในขณะที่ Poitier คิวว่างเลยไม่มีปัญหา
แล้วการคัดคนมารับบทจอห์น แจ็คสันก็เริ่มต้นครับ โดยคนที่อยู่ในลิสต์ก็มี Kirk Douglas, Burt Lancaster, Gregory Peck, Anthony Quinn และ Frank Sinatra แต่ทุกคนบอกปัดหมด และในที่สุดบทก็ตกเป็นของ Tony Curtis
ถือเป็นหนังคลาสสิคอีกเรื่องที่มีดีตรงการแสดง ตามด้วยการเล่นประเด็นเรื่องสีผิวอันเป็นประเด็นอมตะในสังคมอเมริกัน จากนั้นก็ผสมด้วยการกระเทาะเปลือกคนในสังคมทั้งหญิงและชาย ทั้งคนแก่และเด็ก
สองดาวสามส่วนสี่ดวงครับ

(7.5/10)
หมวดหมู่:Black and White Movies, Crime, Drama, Movie Reviews, Recommended Movies










