
ดุดุดุ – Magnificent Warriors หนังบู๊สายฟัดของซือเจ๊ Michelle Yeoh ที่ถือว่าดูเอามันส์เสพความบันเทิงได้แบบสบายๆ
หนังเล่าถึงสมัยที่ญี่ปุ่นรุกรานแผ่นดินจีนตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ โดยที่พวกญี่ปุ่นมีแผนจะยึดครองเมืองคายีเพื่อใช้สร้างโรงงานผลิตแก๊สพิษ แต่ทีนี้ยูต๊ะ (Lowell Lo) เจ้าเมืองคายีไม่ต้องการให้เมืองตกเป็นของญี่ปุ่นครับ เลยพยายามติดต่อทางการจีนเพื่อให้ส่งคนมาช่วย ทางจีนเลยให้สายลับเวหาหมายเลข 1 (เอ๋อตงเซิน, Yee Tung-Shing) คอยประกบยูต๊ะไว้ แล้วก็ส่ง ฮัวหมิงหมิง (Michelle Yeoh) นักบินสาวที่วิทยายุทธแพรวพราวเดินทางไปยังเมืองคายีเพื่อพาทั้งยูต๊ะและสายลับหนีออกมา
แต่ก็นั่นแหละครับ แผนที่วางไว้มันมักจะไม่เป็นตามนั้นเสมอ ทำให้หมิงหมิงกับพวกต้องออกลีลาฟัดกับพวกญี่ปุ่นตามระเบียบ
ดูแบบไม่คาดหวัง แต่หนังมันส์ใช้ได้เลยนะครับ อย่างแรกเลยที่ปรารถนาคืออยากเห็นลีลาฟัดสไตล์เจ๊ Michelle Yeoh ซึ่งหนังก็เสิร์ฟฉากบู๊ได้อย่างน่าพอใจ มีมาเรื่อยๆ ให้เจ๊แกได้แสดงความสามารถถ้าจะติดหน่อยๆ ก็คงเป็นตอนท้ายที่ตามปกติหนังควรจะมีตัวร้ายฝีมือเด็ดไว้ให้ตัวเอกสู้แบบสมน้ำสมเนื้อ แต่กลายเป็นว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีบิ๊กบอสอะไรแบบนั้นครับ เลยไม่มีฉากบู๊ชุดใหญ่ปิดท้าย แต่ถ้าดูจากปริมาณฉากบู๊ระหว่างทางของเจ๊แกแล้ว ก็ถือว่าโอเคล่ะครับ มีมาเรื่อยๆ ให้เยอะพอสมควร

ผมชอบที่หนังเล่าเรื่องแบบกระชับ ไม่พยายามยืดเรื่องราวอะไรมาก โดยเฉพาะเรื่องส่วนของนักตุ๋นจอมกะล่อนที่แสดงโดย อู๋เย่าฮั่น (Richard Ng) ที่จะมีประเด็นให้หมิงหมิงเข้าใจผิดว่านายคนนี้เป็นสายลับเวหาในตอนแรก แต่หนังก็ใช้เวลาส่วนนี้ไม่นานครับ เช่นเดียวกับเรื่องส่วนอื่นๆ ที่เล่าแบบเนื้อๆ เลยทำให้หนังดูเพลิน ไม่มีช่วงน่าเบื่อหรือช่วงที่ต้องดูแบบจำทน
อีกหนึ่งสิ่งที่เข้าท่ากว่าที่คาดคือดนตรีครับ เพลงธีมหลักของหนังให้อารมณ์หนังผจญภัยแบบที่มีตัวเอกเป็นผู้หญิง – ฟังจากท่วงทำนองน่ะครับ ว่ามีกลิ่นอายผจญภัย แต่ก็จะมีทำนองพลิ้วไหวอ่อนช้อย ไม่ได้ออกแนวแกร่งกร้าว ก็ขอชม Chan Wing-leung และ Renato Piccioni ครับที่รังสรรค์ดนตรีออกมาได้พอเหมาะ แต่ก็มีข้อเสียอยู่หน่อยคือดนตรีนั้นมีอยู่ไม่กี่เพลงครับ เลยมักจะมีการเวียนซ้ำค่อนข้างบ่อย จนบางทีก็รู้สึกว่าเพลงมันซ้ำๆ จังเลยแฮะ
ถือเป็นหนังบู๊ผสมตลกที่กลมกล่อมดีครับ คิวบู๊ดี ตอนตลกก็ไม่เลว และจุดที่ทำให้หนังน่าจดจำมากขึ้นก็คงเป็นเรื่องมิตรภาพระหว่างตัวละครหลักที่มันอาจไม่ได้ลึกซึ้งมากมายน่ะนะครับ แต่ก็ถือว่ามีกลิ่นอายของมิตรไมตรีพอให้ได้สัมผัส ตัวละครหลักก็ห่วงใยและมีน้ำใจให้กัน มันดูน่ารักดีครับ ไหนจะเรื่องการฮึดสู้ของตัวละครชาวบ้านในเรื่องก็แอบได้อารมณ์รักบ้านรักเมืองผสมเข้าไปอีก มันอาจจะดูเป็นอะไรที่ใส่ลงมาแบบอย่างละนิดอย่างละหน่อยน่ะนะครับ แต่ก็ถือว่าทำให้หนังดูมีอะไรมากขึ้น ไม่ได้โล่งโถง
สองดาวครึ่งได้ครับ

(7/10)










