Animation/Cartoon

Your Name. (2016) หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ

Untitled06744

ถ้าคุณเป็นคอการ์ตูนญี่ปุ่นแนวอบอุ่น+กินบรรยากาศ, เป็นสาวก Makoto Shinkai หรือเป็นคนรัก Ghibli ล่ะก็ เรื่องนี้สามารถตรงดิ่งไปดูได้เลยครับ ไม่ต้องรออ่านสิ่งที่ผมจะเขียนด้านล่างนี่แล้ว 😊

Your Name เป็นการ์ตูนที่มาได้ถูกที่ถูกเวลา เพราะหลังจาก Ghibli ประกาศพักผ่อนไป ผมว่าคอการ์ตูนแนวนี้ส่วนใหญ่ก็รู้สึกใจแป้วนะ เหมือนชีวิตมันขาดหายอะไรสักอย่าง จนกระทั่งมาเจอเรื่องนี้น่ะครับ ถือว่าช่วยเติมเต็มอะไรที่ขาดหายไปนั้นได้อย่างดีเลย

และเจ้าของผลงานเรื่องนี้ก็คือ Makoto Shinkai ผู้ที่ใครหลายคนยกย่องว่าเขาคือ Hayao Miyazaki คนต่อไป โดยส่วนตัวผมว่า คำกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใดเลยครับ เมื่อชมจากสารพัดผลงานของเขาแล้ว

พล็อตหลักก็ออกแนวสลับร่างสร้างรัก แล้วก็ผสมกับความเป็นไซไฟเข้าไปแบบพอดีๆ ครับ หนังทำได้สนุกดี แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้แปลกใหม่แบบสุดๆ แต่ก็ถือว่าเป็นการเอาสูตรเดิมมาปรุงใหม่ในแบบของตัวเองได้อย่างดี

ช่วงต้นๆ นี่ผมไม่ถึงกับชอบในทันทีนะ ส่วนหนึ่งอาจเพราะต้องพยายามทำความเข้าใจว่ากติกาในการสลับร่างของ 2 ตัวเอกนั้นเป็นยังไง, เวลานี้เขากำลังสลับร่างหรือไม่ หรือกำลังเป็นตัวเองอยู่

แต่พอดูไปแล้ว เราจะสนิทกับ 2 ตัวเอกมากขึ้นเรื่อยๆ จุดที่ผมประทับใจในตัวหนังมากๆ คือ ตัวเอกจะสลับร่างกันตอนฝันใช่ไหมครับ แล้วบางครั้งพอพวกเขาตื่นขึ้น ตอนแรกๆ เราอาจต้องดูพฤติกรรมของตัวละครนั้นก่อน ว่าตอนนี้เขาสลับร่างกันไหม ซึ่งเราอาจจะยังมองไม่ออกในทันที

ทว่าพอดูไปๆ จนสักช่วงกลางเรื่องเนี่ย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะ แต่เราแทบจะรู้ ณ โมเมนต์ที่ตัวละครตื่นขึ้นมาเลยน่ะครับว่าตอนนี้ตัวละครอยู่ในร่างตัวเอง หรือมีการสลับร่างเกิดขึ้น คือหนังสร้างจังหวะและวางองค์ประกอบต่างๆ ได้ดี จนเราสัมผัสได้เลยว่า ณ นาทีนี้วิญญาณใดอยู่ในร่างใด

การที่หนังทำให้รู้สึกแบบนี้ได้ ก็คงเพราะหนังสามารถถ่ายทอดคาแรคเตอร์ของ 2 ตัวเอกได้อย่างดีครับ ฝ่ายชายมีนามว่า ทาคิ เป็นหนุ่มผู้ใช้ชีวิตในโตเกียว โดยต้องทำงานพิเศษเป็นบริกรอยู่ในภัตตาคาร ส่วนฝ่ายหญิงมีนามว่า มิทสึฮะ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในชนบท แล้วเธอก็เพรียกหาชีวิตที่แปลกใหม่ในเมืองใหญ่อยู่เนืองๆ

Untitled06745

บอกแบบไม่อ้อมค้อม ผมตกหลุมรัก 2 ตัวละครนี้ครับ พวกเขาค่อยๆ มีชีวิตจริงๆ ก่อตัวขึ้นมาในความรู้สึกผม ผมชอบในความร่าเริงและมีชีวิตชีวาของมิทสึฮะ เธอดูเป็นคนมุ่งมั่น แต่ก็แฝงไว้ด้วยความไม่มั่นใจบ้างในบางวาระ แล้วก็โก๊ะนิดๆ ด้วย ทั้งหมดทั้งปวงนี้รวมกันเป็นเสน่ห์ที่ทำให้มิทสึฮะดูน่ารักกำลังเหมาะ

ส่วนทาคินั้น ตอนต้นๆ เราจะยังไม่ได้รู้จักเขาสักเท่าไร แต่พอดูไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกเลยว่าทาคิชวนให้นึกถึงพระเอกการ์ตูนตาหวานที่ดูเท่ห์ ดูสมาร์ท แต่แท้จริงแล้วก็มีเรื่องให้สับสนในใจ มีความไม่เข้าใจในตัวเองเกิดขึ้น เพียงแต่เขาไม่ได้บอกใคร ไม่ยอมเปิดโลกภายในให้ใครได้รู้ง่ายๆ ซึ่งก็พอดีที่มีมิทสึฮะนี่แหละครับมาเข้าร่าง มันเลยส่งผลบางอย่างต่อความคิดและความรู้สึกของทาคิ

ตัวตนคนเราบางทีก็แปลกนะครับ เราอยู่กับตัวเรามาตั้งแต่เกิด แต่บางครั้งกลับยิ่งเข้าใจมันได้ยากเย็น… คงเพราะแบบนี้เราเลยต้องให้ใครอีกคนใช้ความเป็นเขา มาช่วยค้นหาความเป็นเรา… โยงใยที่เชื่อมคนเข้าหากันนั้น ถือเป็นความลึกลับที่สวยงามอยู่ในที

หนังยังมีส่วนผสมของแนว Coming of Age ลงไปด้วยครับ ว่าด้วยการค้นหาตัวตน, ค้นหาความหมายชีวิต, การตั้งคำถามต่อเส้นทางที่เรากำลังก้าวเดิน, ความกระหายที่จะสรรหาสิ่งแปลกใหม่เข้ามาสู่ชีวิต และการพยายามไขปริศนาว่าเราจะอยู่กับคนรอบตัวให้มีความสุข (มากกว่ามีความทุกข์) ได้อย่างไร

… ไม่แน่ว่าถ้าเราลองเอาจิตใจของเราใส่ไปในหนัง, เอาตัวไปลองสิงในตัวละคร หรือยอมให้ความคิดของตัวละครมาสิงในหัวเรา เราอาจได้แนวคำตอบต่อคำถามบางอย่างในชีวิตก็ได้นะครับ 😊 หนังของ Shinkai ให้อะไรแบบนี้อยู่บ่อยๆ ทีเดียว

ผมรู้สึกว่าหนังมันพอดีน่ะครับ คือมันครบเลยนะ มีดราม่าผสมลงไป มีความฮาแทรกในหลายช่วง (ผมฮาฉากที่เพื่อนพระเอกหลุดปากออกมาว่า “เมื่อวานมันน่ารักดีนะ” กับฉากที่น้องนางเอกรีบเดินออกจากบ้านไปน่ะครับ ฮาดี) อีกทั้งยังมีความโรแมนติกที่พอเหมาะ

และผมว่าหนังมีความโรแมนติกในหลายระดับมาก ตั้งแต่ระดับกุ๊กกิ๊กมุ้งมิ้งชวนให้ยิ้ม ไปจนถึงระดับที่ลึกซึ้งจนยากจะอธิบาย ซึ่งใครที่เคยรู้ใจใครมากๆ แบบอธิบายไม่ได้ว่าทำไมถึงรู้ได้ขนาดนั้น จะเข้าใจครับว่าผมกำลังสื่อถึงอะไร และหนังก็มีโมเมนต์อารมณ์ระดับนั้นใส่ลงไปไม่น้อยด้วย

Untitled06746

2 ตัวเอกมีความเด่นและมีอัตลักษณ์ที่น่าจดจำครับ ในขณะที่ตัวละครสมทบรอบๆ ตัวเอกก็ถือว่ามีโมเมนต์ของตัวเอง มีส่วนให้หนังออกมาน่าจดจำแบบนี้ อย่างบทคุณย่าของมิทสึฮะ ที่คำพูดของท่านหลายคำน่าจดจำมากๆ เพียงแต่เราอาจจะไม่ได้รู้จักกับตัวละครแวดล้อมแบบลึกซึ้งเท่าที่รู้จัก 2 ตัวเอกเท่านั้นเอง และบางช่วงบางตอน ตัวละครแวดล้อมก็เหมือนจะดร็อปบทบาทลงไป

แต่ก็ไม่แปลกน่ะครับ เพราะจากแก่นเรื่องแล้ว โจทย์สำคัญที่สุดคือการทำให้คนดูอย่างเราๆ จดจำทาคิและมิทสึฮะได้ ดังนั้นบทสมทบรอบๆ ก็เหมือนจะมีไว้เพื่อขับเน้นเรื่องราวหรือสถานการณ์ ให้เรารู้สึกทาคิกับมิทสึฮะมากๆ เป็นหลักนั่นแหละ

Your Name ถือว่าตอบโจทย์คนชอบการ์ตูนสไตล์นี้อย่างผมได้ตรงจุดเลยครับ ตัวละครหลักเด่นจนน่าจดจำ เรื่องราวมีครบทั้งอารมณ์ขัน, ความสนุกเพลิดเพลิน, ความซาบซึ้ง และความลุ้นในตอนไคลแม็กซ์ ตามด้วยภาพสวยๆ แบบวาดมือแบบที่คอการ์ตูนวัย 30 ขึ้นไปอย่างผมรู้สึกคุ้นเคย

อันที่จริงแล้ว ผมว่าผมตกหลุมรักการ์ตูนวาดมือมาเป็นสิบปีแล้วครับ เอาแค่โดราเอมอนน่ะครับ เวอร์ชั่นใหม่ๆ หรือเวอร์ชั่น 3 มิติ HD (หรือต่อให้ IMAX) ยังไงก็ไม่ถึงใจเท่าวาดมือ SD ที่เราเติบโตมาพร้อมกับมัน

การ์ตูนวาดมืออาจภาพอาจไม่ชัด ไม่ลึก ไม่คม ไม่สมจริง แต่มันให้อารมณ์เหมือนเราได้ “กลับบ้าน” กลับไปย้อนเยือนวันวานเมื่อเรายังเล่นเกมกด, การ์ตูนเล่มละ 5 บาท, เสียบเข้าเสียบออกตลับเครื่องแฟมิลี่ (กว่าจะได้เล่น 555)… มันพาเราย้อนไปสมัยวัยเยาว์ที่ยังคงซุกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในใจเรา… คงเพราะงี้น่ะครับ ผมเลยผูกพันกับลายเส้นสไตล์นี้เป็นพิเศษ

ยิ่งภาพเหล่านี้สร้างสรรค์โดย Makoto Shinkai แล้ว เรื่องความสวย ความกลมกลืน แทบไม่ต้องพูดถึงครับ อย่างฉากมิทสึฮะกับน้องสาว เดินเข้าป่ากับคุณย่า ซีนนี้สีสันและภาพตรึงใจมาก (ใครดูแล้วติดใจ แนะนำให้จัด 5 Centimeters Per Second ไปอีกเรื่องครับ รับรองฟิน)

หนังเดินเรื่องได้น่าติดตามครับ ยิ่งช่วงหลังๆ นี่มีเรื่องให้ลุ้นเยอะเลย แน่นอนว่าผมจะไม่สปอยล์ครับ แต่บอกได้ว่าหนังยังมีอะไรมากกว่าที่เรื่องย่อกับตัวอย่างบอกเอาไว้ อันทำให้ครึ่งหลังมีอะไรที่ทั้งซึ้งและลุ้นรอเราอยู่ (จริงๆ ผมรู้สปอยล์หมดแต่ต้นครับ แต่ตอนดูก็ยังชอบและลุ้นไปกับเรื่องอยู่ดี)

เป็นการ์ตูนที่ผมรู้สึกโอเคในตอนเริ่ม พอผ่านไป 20 นาทีก็จับทางได้ เลยเริ่มสนุกมากขึ้น แล้วพอถึงตอนจบ ผมก็ยังคงคิดถึงหนังเรื่องนี้อยู่ครับ คิดถึงตัวละคร คิดถึงรายละเอียดหลายอย่างในหนัง (ที่ผมว่าผมจะไปเก็บรายละเอียดซ้ำนะ ถ้ามีโอกาส)

ถ้าหนังเรื่องไหนที่ผมดูจบแล้ว อารมณ์ไม่จบเนี่ย ผมมักแนะนำให้ลองไปดูกันครับ เพราะอย่างน้อยเราก็ชอบและเราพูดได้เต็มปากว่ามันน่าสนใจ แต่ผมก็ไม่สามารถการันตีได้ครับว่าทุกคนจะชอบเหมือนกันหมดไหม เอาเป็นว่าในเบื้องต้น คนที่เฉยกับการ์ตูนแนวรักวัยรุ่นของญี่ปุ่น หรือไม่ก็รู้สึกพิเศษอะไรกับการ์ตูน Ghibli ก็อาจจะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้ครับ

แต่หากใครเป็นแฟนการ์ตูนแนวนี้ แล้วยังอ่านจนถึงบรรทัดนี้โดยยังไม่ได้ไปดูล่ะก็ มาถึงบรรทัดนี้ผมก็ยังยืนกรานครับ ผมชอบแนวนี้ ดูแล้วก็ชอบเรื่องนี้ เลยให้คนที่ชอบแบบเดียวกันได้ไปดูครับ ผมเชื่อว่าท่านต้องชอบครับ จะชอบมากหรือน้อยก็ว่ากันไป 😊

+++++++++++
ถัดจากนี้ไปมีสปอยล์นะครับ แต่อยากแบ่งปันความประทับใจ ใครไม่อยากทราบข้ามได้เลยครับ
+++++++++++

ฉากที่ทาคิกับมิทสีฮะเจอกันบนภูเขานั้น เป็นอะไรที่พีคมากๆ สำหรับผมนะ คือมันครบรสแบบเหลือเชื่อ รสโรแมนติกกินใจทำได้ดีครับ ครั้นพอจะฮาก็ฮาได้อีก

แต่ที่ประทับใจมากคือตอนมิทสึฮะด่าทาคิว่า “นายจับนมฉัน” คือผมฮานะ ฮาหนักมาก แต่ระหว่างหัวเราะก็กลายเป็นน้ำตาไหลออกมาซะงั้น และไม่ได้ไหลแป๊บ ไหลยาวอยู่เหมือนกัน

พอมานั่งถามตัวเองว่าทำไมน้ำไหลออกตา ก็ได้คำตอบว่า ณ โมเมนต์นั้น “พวกเขาหากันจนเจอแล้ว”

อารมณ์ดีใจมันมาครับ มันพีคน่ะ เพราะหนังทำให้เราลุ้นตลอดว่าพวกเขาจะมาเจอกันได้ไหม แล้วพอเจอกัน จ้องหน้ากันแป๊บนึงก็หักมุมมาฮาด้วยประโยค “นายจับนมฉัน” มันเหมือนพีคซึ้งมาเจอพีคฮาครับ เป็นโมเมนต์ที่ผมไม่ได้มีมานานแล้วเหมือนกัน… แค่ซีนนี้ซีนเดียวก็ได้ใจผมไปแล้วล่ะ

… แอบทึ่งครับ… นี่เป็นหนังการ์ตูนที่ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงการมีตัวตนของพระเอก-นางเอก แบบที่หนังโรแมนติกที่คนแสดงจริงๆ หลายๆ เรื่องยังทำไม่ได้เลยนะเนี่ย

ส่วนฉากสุดท้าย บอกตรงๆ ครับ ว่าหนังหลายเรื่องก็มีฉากจบประมาณนี้ จริงๆ แล้วฉากจบแบบนี้ มันไม่ใช่อะไรที่ใหม่เลยนะ แต่เพราะการเล่าเรื่อง เพลงประกอบ และภาพสวยๆ ประมาณ 90 นาทีกว่าๆ ก่อนจะถึงตอนจบนั้นทำออกมา “ดีได้ใจ”

เลยทำให้ตอนจบแบบ “เดิมๆ” นี้ สามารถกระทุ้งต่อมตื้นตันของใครหลายคนได้สำเร็จ 😊

สามดาวครับ

Star31

(8/10)