Wake of Death หนังบู๊ของพี่ Jean-Claude Van Damme ที่ว่าจะดูๆ มาหลายที จนตอนนี้สบโอกาสก็เลยจัดตามหน้าที่ครับ – อันนี้โดยส่วนตัวถือว่าเป็นหน้าที่ของผมในการไล่ล่าตามดูหนังของดาราแอ็คชั่นยุค 90 ให้ครบๆ ครับ 555

เบน อาร์เชอร์ (Jean-Claude Van Damme) คือการ์ดในบาร์แห่งหนึ่งที่ตั้งใจจะเลิกทำอาชีพนี้เสียที เพราะไม่อยากมีเรื่องมีราวกับใคร และจะได้มาใช้เวลาอยู่กับภรรยา (Lisa King) และลูกชาย (Pierre Marais)

แต่ทีนี้อยู่มาวันหนึ่งภรรยาของเบนที่เป็นนักสังคมสงเคราะห์ได้ช่วยเหลือเด็กหญิงคนหนึ่งที่หลบหนีเข้าอเมริกามาทางเรือ แล้วก็พอดีที่เด็กสาวคนนี้เป็นลูกของซุนกวน (เยิ่นต๊ะหัว, Simon Yam) เจ้าพ่อจอมโหดจากฮ่องกง ส่งผลให้เธอโดนซุนกวนตามเล่นงาน และนั่นก็ทำให้เบนต้องระเบิดความแค้นออกมาเพื่อไล่ล่าพวกของซุนกวนให้สาสม

ระหว่างดูหนังเรื่องนี้นี่คิดเลยครับ ว่าพี่ซุนกวนแกไม่น่าใจร้อนเลย คือที่เรื่องมันวุ่นวายใหญ่โตจนแก๊งพี่แกโดนเล่นซะยับเยินเนี่ยก็เพราะพี่ใจร้อนไปเล่นงานลูกเมียของเบนแท้ๆ ถ้าค่อยๆ วางแผน ค่อยๆ ตะล่อมดำเนินการเรื่องมันอาจไม่ใหญ่โตขนาดนี้ ซึ่งบทหนังก็ถือว่าพอจะฉลาดอยู่ครับที่ให้ตัวละครตัวหนึ่งออกปากวิพากษ์การกระทำของซุนกวนว่าไม่น่าทำโฉ่งฉ่างเลย ถ้าทำเงียบๆ เรื่องก็คงเรียบร้อยแบบเงียบๆ ไปแล้วล่ะ – แต่ก็พอเข้าใจล่ะครับ ถ้าไม่งั้นมันก็ไม่มีเรื่อง ไม่มีเรื่องก็ไม่มีอะไรให้พระเอกทำกันพอดี

ทีนี้มาว่ากันถึงในแง่แอ็คชั่น เรื่องนี้พี่ Jean-Claude แกก็ได้บู๊และได้แสดงอารมณ์อยู่บ้างนะครับ ถือเป็นผลงานที่ดูได้เรื่อยๆ ของเขา แต่ก็มีจุดน่าเสียดายตรงการตัดต่อนี่แหละ การตัดต่อของหนังมันไวไปจนทำให้ความมันส์ที่พึงมีเกิดความสะดุุดครับ ประมาณว่าตัดจนบางที่ก็ดูไม่รู้ว่าใครชกใคร ใครกำลังโดนเล่นงาน มันไวไปนิด

แล้วที่สำคัญเลยคือฉากไล่ล่า อย่างตอนไล่ล่ากันในห้างนี่จริงๆ ฉากนั้นไม่เลวนะ แต่มันก็มาเสียตรงการตัดต่อร้อยเรียงนี่แหละครับ ตามปกติถ้าจะให้มันออกมามันส์นี่ ฉากประเภทไล่ล่าต่อเนื่องมันต้องเรียงฉากให้ดูรู้เรื่องว่าตัวละครไล่ล่าเริ่มจากไหนและกำลังจะไปไหน ต้องฉษยให้เห็นชัยภูมิโดยรอบว่ามันเป็นอย่างไร มีที่สูงที่ต่ำ มีที่ให้พุ่ง มีที่ให้ชนตรงไหน แล้วพอเอามาเรียงมันก็จะออกมามันส์ แต่อย่างที่บอกครับว่าหนังตัดต่อไม่ดีนัก ฉากที่น่าจะเข้าท่าเลยดร็อปความน่าสนใจลง

หรือกระทั่้งฉากบู๊บางฉากก็สั้นจนอึ้ง อย่างตอนที่ลูกน้องซุนกวนบุกไปบ้านแล้วเจอกับเบน ฉากนี้นึกว่าจะได้มันส์เพราะตัวร้ายเอาดาบซามูไรมาไล่ฟันเลย แต่ที่ไหนได้บู๊ไม่เกิน 15 วินาทีพี่ตัวร้ายแกก็ดันไปซะแล้ว ไม่ทันได้มันส์เลย

โดยรวมหนังเลยอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางเฉยครับ ความมันส์ที่พึงมีไม่เยอะนัก แล้วก็มาดร็อปลงเพราะการตัดต่อและความต่อเนื่องของฉากนี่เอง แอบเสียดายอยู่เหมือนกันครับ

ว่ากันว่าตอนแรกคนที่จะมากำกับเรื่องนี้น่ะคือ Ringo Lam ที่เคยร่วมงานกับ Van Damme มาแล้วใน Maximum Risk, Replicant และ In Hell แต่พอกำกับไปได้ไม่กี่อาทิตย์ Lam ก็เดินออกจากโปรเจคท์ไปครับ ทำให้ทีมงานต้องหาคนมาแทน ซึ่งก็คือ Cess Silvera และเพียงไม่นานนายคนนี้ก็ถูกไล่ออกจากกองไปอีก สุดท้ายคนกำกับก็คือ Philippe Martinez ที่ก่อนหน้านี้เคยทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างมาก่อนครับ และผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็น

สรุปว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบพี่ Jean-Claude ครับ ผมว่าพี่เขาก็พยายามแสดงให้ดีอยู่เหมือนกัน แต่แอ็คชั่นไม่มันส์เท่าไร และที่สำคัญคือไม่เยอะดังคาดด้วยครับ ตอนแรกนึกว่าจะให้พี่แกลุยเดี่ยวอย่างเดียว แต่ไปๆ มาๆ พี่แกมีคนคอยช่วยครับ ทำให้ความเค้นในหนังเบาลงไปพอตัว

ไม่ถึงสองดาวครับ

(5/10)