
พอดูหนังที่สร้างโดย Netflix บ่อยๆ มันก็ทำให้จับทางได้น่ะครับว่าหนังของที่นี่มันน่าจะประมาณนี้แหละ โทนแบบนี้ สเกลประมาณนี้ อย่างหนังแอ็คชั่นมันก็จะใหญ่ประมาณหนึ่ง ความลุ้นก็ประมาณหนึ่ง แต่มันจะไม่ถึงกับบิ๊กเบิ้มอลังการแบบหนังเข้าโรง เรียกว่ามันจะมีเพดานของมันอยู่
กับ Heart of Stone ก็เข้าอีหรอบนั้นครับ สไตล์หนัมาในแนว Mission: Impossible ผสมกับหนังสายลับอย่างเจมส์ บอนด์และ Salt เรื่องของราเชล สโตน (Gal Gadot) สายลับ MI6 ที่แท้จริงแล้วทำงานให้กับชาร์เตอร์ องค์กรลับที่ตั้งขึ้นเพื่อรักษาความสงบให้กับโลก แต่แล้วก็ตามสูตรครับ มันต้องมีวายร้ายโผล่มาพร้อมแผนการระดับโลก เธอเลยต้องออกโรงต่อสู้และกู้โลกตามสูตร
ผมว่าหนังใช้ได้ครับ ดูได้เพลินๆ ในฐานะหนังสายลับล่าข้ามโลกของ Netflix อันนี้ต้องขีดเส้นใต้ตัวโตๆ เลยว่า “ของ Netflix” เพราะสเกลมันจะใหญ่ในระดับหนึ่งอย่างที่บอกไป แต่มันจะไม่ถึงกับสุดๆ ไม่ดูฟอร์มแข็งฟอร์มดีเท่าหนังแอ็คชั่นรุ่นตัวท็อปเข้าโรง ซึ่งก็ยอมรับล่ะครับว่าระหว่างดูมันก็แอบรู้สึกอยู่เป็นพักๆ น่ะ ว่าบางอันมันยังไม่สุดน้า บางอันมันดูง่ายไปน้า หรือบทตรงนี้ตัวละครมันน่าจะฉลาดได้อีกน้า ฯลฯ อะไรเหล่านี้คือความรู้สึกที่มักจะผุดขึ้นมาเสมอเวลาดูหนังแอ็คชั่นของ Netflix น่ะครับ สมัยก่อนก็รู้สึกในเชิงลบสักหน่อย แต่มาระยะหลังนี่รับได้แล้ว เลยกลายเป็นไม่บวกไม่ลบ กลายเป็นรับสภาพได้แล้วหัวก็ปรับให้เข้ากับสเกลของหนังโดยอัตโนมติ
ดังนั้นใครโอกับหนังของ NF ก็น่าจะเพลินกับเรื่องนี้ ส่วนใครที่ไม่โอกับหนัง NF มาแต่ไหนแต่ไรก็น่าจะรู้สึกเฉยๆ หรือไม่ก็ไม่ชอบ อันนี้เป็นเรื่องธรรมดาครับ
ส่วนผมก็ว่าหนังเพลินดีครับ ดูได้เรื่อยๆ ไปจนจบ Gadot ก็ไปได้ดีกับบท ผมชอบที่ทีมงานแต่งหน้าและเลือกคอสตูมให้เธอค่อนข้างเหมาะ คือดูปอนๆ หน่อย ไม่ได้สวยหรือสง่ามากมาย ดูเป็นสายลับที่พร้อมลุยและพร้อมคลุกฝุ่นเผชิญอันตราย อีกรายที่ชอบคือ Matthias Schweighöfer ที่ชอบมาตั้งแต่ Army of the Dead ก็ถือว่าขโมยซีนได้พอตัว

อีกรายที่น่าจดจำคือ Sophie Okonedo ในบทโนแมด หัวหน้าของสโตนที่มาดดูเหมาะเป็นหัวหน้า ดูห่วงใยและใส่ใจลูกน้อง รวมถึงอ่านใจลูกน้องออกในหลายวาระ ผมเชื่อว่าหลายคนจะค่อยๆ รู้สึกผูกพันกับตัวละครนี้ระหว่างการดูหนังครับ ถือเป็นบทหัวหน้าสายลับที่เข้าท่าทีเดียว
Jamie Dornan ก็นับว่าโอเคครับ ไม่เด่นแบบจัดๆ ทั้งที่จริงๆ ความเด่นของตัวละครนี้น่าจะน้องๆ นางเอก แต่ก็ถือว่าโอเค และ Alia Bhatt ในบทเคย่า คนนี้ก็มาโกยคะแนนได้เยอะเหมือนกันในช่วงท้ายๆ
พวกฉากบู๊ไล่ล่าและฉากต่อยตีทั้งหลายก็ถือว่าใช้ได้ครับ แต่ส่วนสำคัญที่ช่วยปรุงฉากเหล่านี้ให้มีรสชาติมากขึ้นต้องยกให้ดนตรีของ Steven Price ที่ได้อารมณ์หนังเจมส์ บอนด์มากๆ และด้วยดนตรีของเขานี่แหละที่ทำให้หนังดูบิ๊กขึ้นเบิ้มขึ้น
หนังกำกับโดย Tom Harper ผู้กำกับชาวอังกฤษที่โตมากับสายงานหนังทีวีและซีรี่ส์ ผลงานก่อนหน้านี้ของเขาก็มี The Woman in Black 2: Angel of Death และ The Aeronauts ของ Amazon Prime ส่วนเรื่องนี้ก็ถือว่ากลางๆ ครับ ดูเอาสนุกได้ แต่ก็ยังไม่สุด
ถ้าจะมีอะไรที่ชอบในหนังสำหรับผมแล้วก็คงเป็นเจ้า เดอะ ฮาร์ท สุดยอดโปรแกรมนั่นแหละครับ ถือว่าทีมงานวาดภาพลูกเล่นเจ้าอุปกรณ์นี้ออกมาได้เข้าท่าอยู่เหมือนกัน แต่เสียอย่างเดียวคือท่ามกลางความสามารถร้อยแปดพันประการในการพิทักษ์โลกของมันนั้น ดันมาง่อยในเรื่องสำคัญซะงั้น
สรุปว่าดูได้สำหรับคอหนังแอ็คชั่นสายลับครับ ขอเพียงไม่คาดหวังและหลับตาข้างหนึ่งมองข้ามจุดอ่อนของบทในบางช่วงบางตอนไปบ้าง ก็น่าจะโอเค ดูหนึ่งจบก็ได้ไปหนึ่งเพลินครับ
สองดาวครับ

(6/10)
หมวดหมู่:Action, Crime, Movie Reviews, Thriller










