
ปั้นหยองให้เป็นยักษ์ – The Greatest Lover อีกหนึ่งหนังฮาที่ดูเพื่อความบันเทิงเป็นหลักครับ
เรื่องของ 3 เพื่อนซี้จากจีนแผ่นดินใหญ่ โจวเฉียนจิ้น (โจวเหวินฟะ, Chow Yun-Fat), เกาเหลา (เจิ้งจื่อเหว่ย, Eric Tsang) และส่าจี (เฉินขุ้ยอัน, Fui-On Shing) ที่ตั้งใจข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังฮ่องกงเพื่อโอกาสที่ดีกว่าในการหาเงินและสร้างตัว
ทีนี้เฉียนจิ้นก็เกิดไปป๊ะกับเศรษฐีคนหนึ่ง (Ching Wong) ที่กำลังช้ำใจเพราะถูกผู้หญิงหลอกให้รักและเขี่ยทิ้ง เขาเลยจ้างเฉียนจิ้นให้มาช่วยแก้แค้น โดยจับเฉียนจิ้นเข้าคอร์ส “อัพเกรดบุคลิกภาพ” เปลี่ยนหนุ่มปอนๆ ซื่อๆ ให้กลายเป็นยอดชายที่ผู้หญิงต่างหมายปอง แล้วก็จะให้เฉียนจิ้นหักอกผู้หญิงเหล่านั้น โดยคนที่มาทำหน้าที่อัพเกรดบุคลิกให้เฉียนจิ้นก็คือ อานิต้า (Anita Mui, เหมยเยี่ยนฟาง) ครับ
พล็อตเรื่องจะว่าไปก็คุ้นๆ อยู่ พอไปค้นดูก็ถึงบางอ้อครับ เพราะหนังถือว่ารีเมคมาจาก Pygmalion หนังปี 1938 ที่สร้างจากบทละครของ George Bernard Shaw และบทละครที่ว่านี้ก็เป็นที่มาของ My Fair Lady นั่นเอง เพียงแต่เรื่องนี้มีการสลับบทให้ฝ่ายหญิงเป็นคนฝึกฝนบุคลิก แล้วก็ให้ฝ่ายชายเป็นคนถูกอัพบุคลิกภาพแทน
ยอมรับว่าหนังบางช่วงบางตอนก็ไม่ค่อยจะแนวผมสักเท่าไรครับ อย่างตอนต้นๆ ที่หนังเอาอุจจาระมาเล่น สารภาพเลยว่าไม่ค่อยชอบมุกเล่นขี้แบบนี้สักเท่าไร พอผ่านช่วงแรกก็จะเริ่มเข้าโซนเรื่องราวสไตล์ My Fair Lady ซึ่งในแง่มุกตลกผมรู้สึกกลางๆ ครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าชินกับมุกหนังจีนสไตล์นี้แล้วหรือเปล่า – มุกแบบเอาเรื่องโน่นนี่มาจิกกัด, เอาคนซื่อๆ บื้อๆ มาขยี้มุก แล้วก็มักจะโดนกลั่นแกล้งเอารัดเอาเปรียบ, หรือไม่ก็เล่นมุกตลกแบบต๊องๆ เว่อร์ๆ เล่นใหญ่ๆ แบบหนังฮ่องกงน่ะครับ – แต่ที่ยังพอดูได้เรื่อยๆ ก็เพราะการแสดงของ 2 ดารานำน่ะครับ ทั้งเฮียโจวและเจ๊เหมยก็วาดลีลาบ้าๆ บอๆ เว่อร์ๆ วังๆ ได้โอเคอยู่ เลยพอจะผ่านช่วงแรกมาได้

ไปๆ มาๆ ผมกลับรู้สึกโอเคกับช่วงหลังมากกว่า เมื่อเฉียนจิ้นกับอานิต้าเริ่มมีใจให้กัน ผมว่าช่วงนี้น่ารักนะ น่ารักทั้งในแง่เนื้อหาที่ต่างฝ่ายต่างก็แอบมีใจให้กัน แต่ไม่เผยให้อีกฝ่ายทราบแบบชัดๆ แล้วก็น่ารักในแง่การแสดง ทั้งเฮียโจวและเจ๊เหมยแสดงกันได้แบบพอเหมาะ เฮียโจวก็วาดลวดลายนิ่มๆ ซื่อๆ แมนๆ จนไม่แปลกใจหากจะทำให้นางเอกหันมาชอบจริงๆ ส่วนเจ๊เหมยนั้น มาดปกติในตอนต้นของเธอจะออกแนวเริ่ดๆ เชิดๆ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ง่ายๆ แต่พอเธอเริ่มชอบพระเอกแล้ว เธอจะมีการแอบมอง แอบยิ้ม แอบอายครับ ซึ่งผมว่าเป็นอะไรที่น่ารักมากๆ เลยล่ะ
อีกช่วงหนึ่งที่แอบประทับใจคือตอนท้ายครับ เมื่อเรื่องราวขมวดปม เมื่อเฉียนจิ้นกำลังจะแต่งงานกับลูกสาวคนรวยๆ แล้วก็มีคนพยายามจะเปิดโปง ช่วงที่ว่านี่ก็มีอะไรให้ลุ้นและประทับใจไม่น้อย และซีนที่ว่าก็ต้องยกนิ้วให้เฮียโจวกับเฮียเจิ้งจื่อเหว่ย จริงๆ ตัวละครของเฮียเจิ้งนี่จะออกแนวดูเห็นแก่ตัวมาตลอดตั้งแตต้น ครั้นพอถึงซีนอารมณ์ตอนท้ายพี่แกก็เล่นได้ดี รายนี้ก็แน่เหมือนกันครับ บทคนดีคนไม่ดี บทดราม่าหรือบทซึ้งๆ พี่แกเล่นได้หมด
อีกคนที่แอบชอบเป็นการส่วนตัวคือเจ๊อู๋จินหยูครับ เธอโผล่มาในบทของหญิงสาวที่อยากเป็นมิสฮ่องกง เลยมาให้อานิต้าช่วยชุบตัว รายนี้นี่ก็ฮาเสมอต้นเสมอปลาย บทน้อยก็จริงแต่ก็ยังขโมยซีนได้
โดยรวมแล้วก็ถือว่าพอดูได้ครับสำหรับหนังตลกจากฮ่องกงในยุค 90 ซึ่งจริงๆ หนังก็ไม่ได้เด็ดถึงขนาดต้องดูหรอกครับ คนที่ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำหรับหนังเรื่องนี้ก็คือคนที่ชอบหนังตลกฮ่องกงยุค 90 หรือไม่ก็ชอบเหล่าดารา หากชอบล่ะก็ หนังเรื่องนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ครับ – แต่อย่าคาดหวังมากนะครับ อย่างที่บอกน่ะว่าหนังยังไม่ถึงขั้นเด็ดหรอก
สองดาวครับ

(6/10)










