Action

แสบเผาขน (1988) Tiger Cage

Untitled06151

แสบเผาขน Tiger Cage หนังแนวตำรวจตัดตำรวจอีกเรื่องที่รวมดาราฮ่องกงยุค 90 ไว้คับคั่งพอตัว

เรื่องของทีมตำรวจที่ไล่ล่าปราบปรามพวกค้ายาเสพติด แต่แล้วหัวหน้าของพวกค้ายา (หวังหลงเหว่ย, Lung-Wei Wang) ก็มาล้างแค้นโดยสังหารอาซิว (เหลียงเจียเหยิน, Ka-Yan Leung) ตำรวจคนหนึ่งในทึม ส่งผลให้เพื่อนร่วมงานอย่าง ฟานซิ่นโหย่ว (จางเซี๊ยะโหย่ว, Jacky Cheung) และ เทอร์รี่ (เจิ้นจื่อตัน, Donnie Yen) หมายมั่นจะไล่ล่ามันมาให้ได้

แต่ไปๆ มาๆ ยิ่งสืบสวนพวกเขากลับพบว่าคนใกล้ตัวของพวกเขาเองนี่แหละที่อาจมีส่วนในการค้ายา งานนี้ตำรวจดีเลยต้องมาล่าตำรวจเลวครับ

นอกจากช่อที่ผมเอ่ยไปแล้วก็ยังมีเจิ้งอวี้หลิง (Carol ‘Do Do’ Cheng) ในบทเหอเซี๊ยะหลิง หรือแซลลี่ คนรักของอาซิวที่เป็นตำรวจเหมือนกัน, อู๋ม่งต๊ะ (Man-Tat Ng) ในบทฝงเจี้ยนเต๋อ ตำรวจผู้ที่เทอร์รี่นับถือเป็นเสมือนอาจารย์, เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam) มาเป็นผู้กองหวง หัวหน้าของทีมตำรวจ และเวินปี้เสีย (Irene Wan) เป็นเอมี่ แฟนสาวคนสวยของซิ่นโหย่ว

โปสเตอร์หนังเรื่องนี้ในยุคหลังๆ มักจะเอาภาพของเจิ้นจื่อตันมาขึ้นนำครับ เดาว่าคงเพราะยุคใหม่นี้เจิ้นจื่อตันเขาดังกว่าใครเพื่อนเลยขยายภาพเอามาเป็นจุดขายสักหน่อย แต่บอกเลยว่าเขามีบทไม่เยอะครับ เป็นเหมือนตัวรองมากกว่า ในขณะที่ตัวนำหลักๆ ก็คือดาราดังในยุคนั้นไม่ว่าจะจางเซี๊ยะโหย่ว, เจิ้งอวี้หลิง, เยิ่นต๊ะหัว หรืออู๋ม่งต๊ะเองก็ยังถือว่ามีบทมากกว่า

Untitled06152

กระนั้นแม้เจิ้นจื่อตันจะมีบทน้อย แต่อย่างน้อยเขาก็ได้แสดงลีลากังฟูหนึ่งซีนใหญ่ๆ ซึ่งก็ถือว่าน่าพอใจครับ แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าหนังเรื่องนี้ออกแนวระทึกขวัญสไตล์ตำรวจหักหลังตำรวจ ไม่ได้เน้นแอ็คชันกังฟูอะไรขนาดนั้น

อีกอย่างคือหากใครคาดหวังว่าหนังจะมีการเฉือนคมกันแบบ 2 คน 2 คนก็คงต้องปรับความคิดครับ เพราะหนังสไตล์นี้ในยุคนั้นตัวละครจะไม่ได้มาใช้สมองเฉือนคมกันมากมาย แต่จะออกแนวออกหมัดออกเท้า เอาวิชามาบู๊กัน เอาปืนมายิงกัน ว่าง่ายๆ คือเน้นใช้กำลังมากกว่าใช้สมองซึ่งก็คงต้องแล้วแต่ความชอบล่ะนะครับ ใครชอบหนังบู๊ออกหมัดใช้อารมณ์เดือดมาทุ่มใส่กันแบบหนังฮ่องกงยุค 80 – 90 ก็น่าจะโอเคกับเรื่องนี้ แต่หากใครหวังหนังใช้สมองเฉือนปัญญา หรือหวังหนังกังฟูพลิ้วๆ แบบหนังยุคใหม่ก็คงต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องนี้ครับ

สำหรับผมหนังถือว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ อย่างน้อยเหล่าดาราหน้าคุ้นในอดีตก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แต่ละคนก็แสดงกันได้น่าพอใจทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้าย เพียงแต่เนื้อเรื่องอาจเดาได้เป็นส่วนใหญ่ และบางครั้งก็อดหงุดหงิดไม่ได้ยามที่ฝ่ายคนดีตามเกมฝ่ายคนร้ายไม่ทัน จนทำให้บางตัวละครต้องมาตายไปด้วยฝีมือของฝ่ายร้าย – แต่ก็พอเข้าใจแหละครับว่าที่ให้ตัวละครตายก็เพื่อบีบคั้นเค้นให้อารมณ์ของตัวเอกพุ่งพล่านแบบสุดๆ ตอนไปอัดฝ่ายร้ายจะได้เดือดๆ เลือดอาบสักหน่อย

สองดาวกว่าครับ

Star21

(6.5/10)