
ฮีธ ซอว์เยอร์ (Josh Henderson) นักร้องเพลงคันทรี่ชื่อดังกับคาร่า (Megan Park) คือคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่พวกเขาต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันคือหาทางกลับบ้านให้ทันในวัคริสต์มาสครับ ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเท่าไรเพราะจะไปไหนที่นั่งก็เต็มเป็นส่วนใหญ่ แล้วพายุหิมะยังถล่มจนก่อปัญหาในการเดินทางอีก พวกเขาเลยต้องต่อรถและหาทางล่องไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงบ้าน
แล้วก็ใช่ครับ ระหว่างทางพวกเขาก็สานสัมพันธ์กันตามสูตรนั่นแหละ
จริงๆ จากพล็อตแล้วหนังสามารถเดินเรื่องสไตล์ Before Sunrise ได้ครับ แต่สำหรับตัวหนังแล้วก็ไม่ค่อยจะเป็นแบบนั้นสักเท่าไร โอเคพวกเขาเดินทางด้วยกันครับ และได้เจอหน้ากันตลอดๆ แต่ประเด็นคือบทหนังกำหนดให้พวกเขาต่างก็มีปมในใจ ต่างคนต่างเคยเสียคนที่รักไป ทำให้ลึกๆ แล้วพวกเขาไม่อยากกลับบ้านสักเท่าไร และระหว่างเดินทางไปด้วยกันก็เลยไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมากมาย เพราะต่างคนต่างก็ทุกข์น่ะครับ เลยคุยกันแค่ระดับผิวๆ ไม่ได้ลงลึกอะไร หรือบางทีก็คุยแบบเขม่นกันหน่อยๆ
ก็แอบเสียดายหน่อยๆ เหมือนกันครับ จริงๆ ก็เข้าใจบทนะ เขากำหนดมาแบบนี้ สไตล์มันเลยเป็นแบบนี้ แต่มันก็เลยพลอยทำให้หนังที่น่าจะ Feel Good เรื่องนี้ กลายเป็น Feel ไม่ค่อยจะ Good เท่าไร
และตามสูตรหนังแนวนี้ก็ต้องมีตัวละครผลัดกันมาข้องเกี่ยวระหว่างการเดินทางของพวกเขา ซึ่งรายที่ผมชอบที่สุดคือคู่รักนักร้องรุ่นดึก เฮนรี่ (Tom McBeath) และ แฮร์เรียต (Ellen Kennedy) ที่พวกเขาดูสดใสและเต็มไปด้วยพลังบวก แต่บทไม่เยอะเท่าไร จริงๆ ตามสูตรแล้วตัวละครแวดล้อมเหล่านี้จะมาช่วยเติมเต็มอะไรบางอย่าง ทำให้พระนางได้เผยตัวตนหรือความรู้สึกมากขึ้น หรือไม่ก็มาพร้อมสาระแง่คิดให้คนดูเก็บไปเป็นของแถม แต่กับเรื่องนี้มันไม่ใคร่จะเป็นแบบนั้นเท่าไรครับ ตัวละครส่วนใหญ่ผ่านมาแล้วผ่านไป บางคนอาจมีอะไรซึ้งๆ บ้าง แต่ก็ยังขาดซึ่งความลึก พอไม่ลึกมากอารมณ์เลยไม่มา และหนังก็เป็นแบบนั้นอยู่เป็นส่วนใหญ่ครับ

ยอมรับว่าดูเรื่องนี้แล้วมันค่อนข้างอึนๆ สักหน่อย ส่วนหนึ่งเพราะคาร่านั้นดูค่อนข้างอมทุกข์น่ะครับ ไม่ค่อยได้ฉายแววความสดใส ส่วนฮีธพระเอกของเราก็คล้ายๆ กัน หนังมันเลยไม่ใคร่จะครื้นเครงเท่าไร แต่ขณะเดียวกันมันก็ไม่ได้ลึกน่ะครับ จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าหนังทำให้เป็นแนวดราม่าแบบลึกซึ้งไปเลยอาจจะดีกว่าที่เป็น แต่ผลที่ได้คือมันก้ำกึ่งกลั้วๆ กันน่ะครับ คือเป็นหนังคริสต์มาสที่โทนดูน่าจะสดใส แต่ก็เล่นกับประเด็นของคนที่เคยผ่านการสูญเสีย ตัวละครเลยไม่ค่อยสดใสนัก ระหว่างทางก็ยังชงเรื่อง Feel Good ได้ไม่เยอะเท่าไร ความน่าดูน่าติดตามเลยออกจะไม่มาก
โดยส่วนตัวมองว่าพระเอกนางเอกแสดงได้แบบเรื่อยๆ ครับ คือไม่ได้แย่นะ แต่บทมันไม่เอื้อให้พวกเขาฉายแสงสักเท่าไร ส่วนดาราคนอื่นๆ นอกจากคู่รักนักร้องที่บอกไปก็ยังมี Susan Hogan ที่แสดงเป็นคุณแม่ของฮีธได้น่ารัก แววตาของเธอนั้นบ่งบอกเสมอว่าเธออยากเห็นหน้าลูกและอยากให้ลูกกลับบ้านแค่ไหน แต่ก็พยายามเก็บงำคำพูดไว้เพราะไม่อยากรบกวนจิตใจของลูก เรียกได้ว่าเป็นคุณแม่ที่น่ารักครับ อีกคนก็ Eric Keenleyside ในบทบ็อบ พ่อของคาร่า รายนี้ทำให้นึกถึง John Goodman อยู่เหมือนกัน เพียงแต่บทก็ไม่เยอะเท่าไรอีกนั่นแหละ
เกร็ดที่อยากนำมาบอกให้ทราบกันคือ หนังเรื่องนี้สร้างโดยได้แรงบันดาลใจมาจาก 2 สิ่งครับ สิ่งแรกคือเพลง Time for Me to Come Home ของ Blake Shelton และอีกสิ่งคือหนังสือ Time for Me to Come Home ที่เขียนโดย Dorothy Shackleford (ซึ่งก็คือแม่ของ Blake Shelton นั่นเอง) และ Travis Thrasher และหนังเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรกในชุดครับ ยังมีต่อมาอีกหลายตอน (และโดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่ายิ่งทำยิ่งสนุกด้วยครับ หนังชุดนี้น่ะ)
รวมๆ แล้วถือเป็นหนังคริสต์มาสที่ดูได้เรื่อยๆ ครับ แต่บอกไว้ก่อนว่าหนังอาจให้อารมณ์ก้ำๆ กึ่งๆ อยู่บ้าง คือจะ Feel Good ก็ไม่เชิง แต่จะดราม่าเลยก็ไม่ใช่ หรือถ้าให้พูดตรงๆ คือยังไปไม่สุดน่ะครับ
สองดาวครับ

(6/10)
หมวดหมู่:Christmas Movies, Comedy, Drama, Movie Reviews, Music, Romance, Romance Romance, Romantic Comedy










