หนังฮาในความทรงจำอีกเรื่องของ เฮียโจวซิงฉือ ที่ถือว่าดังไม่ใช่เล่นครับ เพราะจับเอาสายลับ 007 มาล้อแบบเป็นเรื่องเป็นราว ทำเงินในบ้านเราและบ้านตัวเอง (ฮ่องกง) ไปหาน้อยไม่
เรื่องเริ่มเมื่อหัวกะโหลกไดโนเสาร์อันเป็นทรัพย์สมบัติล้ำค่าของประเทศจีนถูกชิงไปโดยนักฆ่าปืนทองคำผู้ลึกลับ ทำให้ทางการต้องเรียกตัวอดีตสายลับคั้งคั้งฉิก (เฮียโจวนั่นเอง) ที่ผันตัวเองไปเป็นพ่อค้าเขียงหมูตามตลาดสด แต่เมื่อชาติต้องการพี่ท่านก็พร้อมจะกลับมาจับมีดปังตอคู่ใจเพื่อออกผาดโผนยุุทธจักรพยัคฆ์ร้ายอีกครั้ง
แม้นี่จะเป็นหนังล้อเลียนสายลับแต่ก็ทำออกมาสนุกเอาเรื่องนะครับ จุดเด่นมากๆ ของหนังคือ “สนุกและฮาแบบไม่เลอะเทอะ” ซึ่งคอหนังน่าจะพอนึกออกครับว่าหนังตลกแนวล้อเลียนในสมัยนั้น (หรือแม้แต่สมัยนี้ก็ตาม) มักจะทำออกมาแบบเน้นมุขขายฮามากจนเกินเหตุ ส่วนเนื้อเรื่องก็ถูกละเลยเหมือนจับเอามุขมาชนมุขไปเรื่อยๆ ดังนั้นถ้าเรื่องไหนมุขแป้กหนังก็เตรียมล้มทั้งเรื่องทันที เพราะมันจะไม่เหลืออะไรให้สนใจอีก
แต่กับเรื่องนี้มันไปกันได้ทั้งเนื้อเรื่องและมุขตลกครับ จริงๆ ต้องบอกว่าหนังมีเนื้อหาจริงจังสไตล์สายลับขนานแท้ คือมีตัวร้าย มีพระเอกระดับพระกาฬ มีนางเอกหน้าคมเข้ม มีนางรองที่ใบหน้าบอกยี่ห้อว่าพร้อมจะหักหลังพระเอกได้ทุกเมื่อ มีแผนร้ายระดับชาติ มีการปลอมตัวไปสืบคดี มีแอ็กชันโลดโผน และหากใครโดนเก็บหรือโดนฆ่าในเรื่องก็คือตายจริง ไม่ใช่ตายขำๆ เพียงแต่ความจริงจังทั้งหลายนั้นถูกนำเสนอไปพร้อมๆ กับมุขน่ะครับ คือเรื่องตรงหน้านั้นมันก็จริงจังเหมือนหนังเจมส์ บอนด์นั่นแหละ เพียงแต่ตัวละครจะผลัดกันเล่นมุขฮาแบบหน้าตายเป็นระยะ ไหนจะตลกอุปกรณ์อีก คือหนังขยันใส่มุขลงมาจนเราต้องขำมันสักมุขน่ะครับ
หรือในสถานการณ์ที่มันจริงจังบางครั้งก็ยังแทรกมุขลงไปได้ อย่างตอนคั้งคั้งฉิกโดนยิงกระสุนฝังใน ถ้าผ่าออกไม่ทันหรือเสียเลือดมากเกินไปเขาก็จะต้องตายแน่นอน แต่ท่ามกลางความเป็นความตายนั้นเอง หนังยังอุตส่าห์แทรกมุขฮาลงไปได้ (ยอมรับว่ามุขนี้ฮาโคตรครับ กับการใช้ “สิ่งนั้น” แทนยาชา เปรียบได้กับที่กวนอูใช้วิธีเดินหมากแทนยาชา… พี่คิดได้ไงครับ ) ก็น่าทึ่งอยู่เหมือนกันครับที่แต่ละมุขไม่เลอะไม่เปรอะ (อาจมีติดเรตนิดๆ) แต่ก็ฮาได้ใจอยู่
หนังเลยลงตัวแบบคาดไม่ถึง ดูเอาเรื่องก็ได้ ดูเอาฮาก็ไม่ผิดหวังเพราะมุขมันเยอะมากและแต่ละมุขก็ล้อ 007 ได้สนุกดีเหมือนกัน ตั้งแต่ชื่อ “คั้งคั้งฉิก” ที่ก็คือ “007” ในภาคภาษาจีน หรืออย่างอุปกรณ์เพี้ยนๆ ที่ดาวินซี่ (ตัวละครล้อ Q แสดงโดย หลอเจียอิง ขาประจำด้านความฮาอีกคนของฮ่องกง) สรรหามายัดเยียดให้พระเอก แม้บางมุขจะฮาแบบเสี่ยวๆ แต่พี่แกก็เล่นจนมันฮาได้น่ะครับ นับถือจริงๆ
ไหนจะดาราสมทบขาประจำของหนังเฮียโจวอีก โดยเฉพาะ Lee Kin Yan ที่ชอบมารับบทกระเทยแต่งหญิง (แต่หน้าตาชวนสยองขวัญมากๆ) เรื่องนี้ก็มาฮาอีกเช่นเคย
ดาราหลักๆ ในเรื่องก็มีหยวนหย่งอี้ ในบทสายลับสาวนางเอกของเรื่องที่ถูกสั่งให้มาเก็บพระเอก พร้อมถูกปั่นหัวว่านายคั้งคั้งฉิกคนนี้เป็นชายเจ้าชู้ ทำลายชีวิตผู้หญิงไปมาก ดังนั้นเขาจึงสมควรถูกกำจัดไปเพื่อขจัดภัยให้กับผู้หญิง แต่เมื่อเธอได้มาใกล้ชิดเขาจริงๆ ก็เริ่มเกิดคำถาม เพราะคั้งคั้งฉิกดูจะไม่ใช่คนไร้น้ำใจขนาดนั้น… อันนี้ก็ถือว่าเหนือความคาดหมายเหมือนกันครับ เพราะหนังแอบสอดแทรกประเด็นดราม่าเล็กๆ ลงไปแบบพอเหมาะ คือมันอาจไม่เด่นจนถึงขั้นนำมาเป็นประเด็นสาระของหนังได้ แต่ก็เป็นปมเล็กๆ ที่ทำให้พระเอกดูมีมิติขึ้น และทำให้นางเอกมีปมขัดแย้งในใจขึ้นมาด้วย
ถึงบอกไงครับว่าหนังมันไม่ได้เอาแต่มุข หนังยังใส่ใจในเนื้อหาด้วย ซึ่งถ้ามองแบบคิดลึกสักนิดก็รู้สึกว่าเฮียโจวแกทำหนังเรื่องนี้โดยอิงหลายอย่างจากหนังเจมส์ บอนด์ 007 มากกว่าแค่เอามาล้อขำๆ แต่มีการหยิบยกประเด็นบางอย่างที่คนดูหลายคนอาจจะเคยแอบเอามาคิด หลังจากดูหนังเจมส์ บอนด์จบ
อย่างการที่บอนด์นอนกับสาวไม่เลือกหน้านั้น ถ้าเป็นโลกแห่งความจริงบอนด์คงทำผู้หญิงท้องไปหลายคนแล้ว และชีวิตของพวกเธอก็ต้องมาเสียหายไป ซึ่งแน่นอนครับว่าไม่มีบอนด์ภาคไหนเอามาพูดถึงหรอก แต่เฮียโจวแกแอบแทรกลงมากึ่งๆ เป็นข้อชวนคิด โดยเฉพาะใครก็ตามที่คิดว่าการกระทำแบบนั้นของบอนด์คือความเท่ห์ เฮียโจวแกเลยเหมือนจะขอสะกิดถามนิดๆ ว่านั่นมันคือความเท่ห์จริงหรือไม่
และถ้ามองดีๆ จะพบว่าบุคลิกของคั้งคั้งฉิกไม่ได้เป็นแค่สายลับมาดหลุด แต่เขามีเอกลักษณ์ดีๆ ของสายลับไม่ว่าจะความรักชาติ การทำงานในหน้าที่แบบสุดกำลัง การรู้จักแยกแยะดีชั่วถูกผิด ไม่ทำลายชีวิตผู้ใดถ้าไม่จำเป็น และต้องทำตัวให้ “เงียบ” ที่สุด ไม่เปิดเผยตัวตนง่ายๆ ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นข้อดีแท้ๆ ของสายลับอย่างเจมส์ บอนด์ 007 และเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้บอนด์ทำงานสำเร็จเสมอ
ขณะเดียวกันเฮียโจวก็ยังเติมบุคลิกดีๆ อย่างการเป็นคนใส่ใจคนรอบข้าง อีกทั้งยามต้องมาเห็นผู้บริสุทธิ์ต้องมาตายไปต่อหน้าระหว่างที่เขาปฏิบัติหน้าที่ เขาก็ยังห่วงใยครอบครัวของผู้สูญเสียเหล่านั้นถึงขั้นตามสืบแล้วก็ส่งเงินไปช่วยทำศพด้วย
และถ้าพิจารณาถึงชื่อหนังแล้ว ชื่อจีนของหนังคือ “Guóchǎn Líng Líng Qī” แปลตรงตัวว่า “Made in China 007” หรือ “007 รุ่นผลิตในจีน” ก็เหมือนจะเป็นการบ่งบอกแบบกลายๆ ว่า 007 คนนี้ (ที่มีความอ่อนโยน แคร์คนอื่น รักเด็ก และรับผิดชอบในการกระทำ) เป็นสไตล์คนจีนขนานแท้ (นะจ้ะ)
สารภาพว่าเมื่อก่อนดูแล้วไม่คิดอะไร แต่พอหยิบมาดูตอนโตแล้วรู้สึกว่าหนังของเฮียโจว มีอะไรมากกว่าความขำแทรกอยู่เยอะครับ มันเหมือนสะท้อนแง่มุมบางอย่างในความคิดของเฮียโจว ที่แม้แกจะไม่ได้กำกับแต่ก็มีส่วนเขียนบทเพิ่มเติมอะไรต่อมิอะไรลงไป ซึ่งเราจะเห็นอะไรพวกนี้ชัดมากๆ ตอนดู นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่ หรือ คนเล็กหมัดเทวดา (แต่หากย้อนไปหนังของเฮียโจวสมัยก่อน ก็จะพบว่ามีสาระประมาณนี้แทรกอยู่เสมอๆ เพียงแต่บางครั้งปริมาณมุขฮาก็โดนเน้นมากกว่า จนสาระถูกกลืนไป)
โดยรวมแล้วนี่คือผลงานหนังฮาที่ดูแล้วสนุก จะว่ามันส์ก็มันส์นะครับ เพียงแต่อาจไม่มันส์เท่าหนังบู๊เต็มตัวแบบเฮียเฉินหลงหรือพี่หลี่เหลียนเจี๋ย แต่หนังก็ยังมีแง่มุมเชิงดราม่ามาเสริมความแข็งแรงให้กับบท ว่าง่ายๆ คือหนังดูสนุกได้โดยไม่เบาโหวงเหมือนหนังฮาล้อเลียนทั่วๆ ไป
ด้านความสำเร็จก็ถือว่างดงามครับ ทำเงินในฮ่องกงไปถึง 37 ล้านเหรียญและได้รับคำชื่นชมไม่ใช่น้อย ทางฟากอเมริกันก็ยังมีหลายคนเอ่ยปากชมเลยครับว่าเป็นหนังล้อเลียนสายลับที่ดูสนุกแบบไม่หลดโลกจนเกินงาม และไม่เน้นตลกจนหนังเสียสมดุลย์ไป
สองดาวครึ่งครับ
(7/10)